จับแก๊งวัยรุ่นปล้นแท็กซี่ - ข่มขืนสาว

พ.ต.อ.เมธา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์รถแท็กซี่ ทะเบียน ทศ 6713 กรุงเทพมหานคร บริเวณปากซอยพัฒนาการ 65 แขวงและเขตประเวศ พบนายสมชาย แก้วเกิด อายุ 49 ปี ผู้เสียหาย ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้รับผู้โดยสารเป็นชาย 2 คน โดยให้ไปส่งบริเวณท้ายซอยพัฒนาการ 65 โดยมีคนหนึ่งนั่งเบาะหน้าและอีกคนนั่งเบาะหลัง เมื่อมาถึงบริเวณกลางซอยที่เกิดเหตุคนร้ายทั้ง 2 คนได้บอกให้จอดรถ ผู้เสียหายจึงได้จอดรถคนร้ายที่นั่งอยู่บริเวณเบาะด้านหลังได้ใช้ท่อนแขนรัดคอผู้เสียหายไว้ ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายจำนวน 3 คน ซึ่งรออยู่ที่เกิดเหตุ ได้เข้ามาเปิดประตูฝั่งคนขับ และได้เข้ามารุมทำร้าย ทั้งนี้ผู้เสียหายพยายามหลบหนีออกมาจากรถ พร้อมกับบอกคนร้ายให้เอาทรัพย์สินไป คนร้ายจึงได้ปล่อยผู้เสียหายไป

พ.ต.อ.เมธา กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือนายบาส (นามสมมติ) ซึ่งทางผู้เสียหายได้ยืนยันว่านายตะวันเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ จึงขอศาลออกหมายจับ ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 3 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมนายบาสตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงได้บริเวณทางเดินกลางซอยอ่อนนุช 86 ซึ่งนายบาส ได้รับสารภาพว่าร่วมกันปล้นทรัพย์จริง โดยมีคนร้ายร่วมก่อเหตุอีกคือนายเอ(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นายบี(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นายกฤษดา หรือโต๊ส เรืองศรี และนายโรส(ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ทั้งนี้คนร้ายได้ก่อเหตุลักษณะนี้มาประมาณ 3-4 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด

พ.ต.อ.เมธา กล่าวอีกด้วยว่า นอกจากนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพว่ายังได้ร่วมกันก่อเหตุข่มขืนในลักษณะโทรมหญิงด้วย ซึ่งผู้เสียหาย ชื่อเล่นนางสวย(ขอสงวนนาม) ได้มาชี้รูปภาพยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ได้ร่วมกันก่อเหตุร่วมกันข่มขืน ซึ่งผู้เสียหายสามารถจดจำใบหน้าของผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน ฝากเตือนว่ากลุ่มคนร้ายจะมีพฤติกรรมทำงานร่วมกันโดยแบ่งหน้าที่กันทำและเลือกเป้าหมายที่เป็นรถยนต์แท็กซี่ในช่วงเวลาดึกๆ จะทำทีให้คนร้าย 2 คน เรียกรถว่าจ้างให้ไปส่งอีกสถานที่หนึ่ง ก่อนที่คนร้ายที่เหลือจะไปดักรอแล้วร่วมกันก่อเหตุ