svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

คนร้ายปล้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

03 ตุลาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คนร้ายใช้ปืนจี้หัวยามจับมัดมือคุมเชิง ก่อนขนหม้อแปลงขนาด 1000 กิโลวัตต์กับสายไฟฟ้า และอุปกรณ์ มูลค่า 20 ล้านบาทขึ้นรถหนี แต่ยังไม่วายเอารีเซฟเว่อร์กล้องวงจรปิดติดมือป้องกันการติดตามไปด้วย คาดเกิดจากการขัดแย้งภายใน




มื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 2 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนาย ธนศักดิ์ ทองนุช หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัย ของโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 100 ไร่ หมู่ 5 บ้านหัวซา ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่า



มีชายฉกรรจ์จำนวนสามสี่คนปีนรั้วสถานีผลิตไฟฟ้าเข้ามาแล้วใช้อาวุธปืนจี้ นายจันทร์ ขนมัง และ นายบรรจง สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในช่วงกลางคืนแล้วใช้เชือกมัดมือนำไปขังไว้ในออฟฟิศโดยในมือถือปืนยืนคุมเชิงให้อยู่ในความสงบ



ก่อนที่จะค้นกุญแจรั้วจาก นายจันทร์ ไปเปิดประตูให้พรรคพวกที่รออยู่ด้านนอกดนำรถเฮี้ยบ ที่มีที่ยก และรถ 6 ล้อ สามคันและรถกระบะอีกคัน มีคนนั่งมาในรถต่างๆ กว่าสิบคนเข้ามาด้านในก่อนที่จะใช้เครน ติดรถยกหม้อแปลงขนาด 1,000 กิโลวัตต์ จำนวน 2 ลูก ราคาลูกละ 5 ล้านบาท ที่วางไว้ใกล้กับทางเข้าออก ซึ่งมี รปภ.ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ขึ้นรถหกล้อ 2 คัน ส่วนอีกคันนำไปบรรทุกสายไฟซึ่งยังไม่ได้ใช้อีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าสิ่งของที่กลุ่มคนร้ายนำไปราว 20 ล้านบาท



นอกจากนั้น ก่อนที่คนร้ายทั้งหมดจะออกไป คนร้ายชุดแรกที่เข้ามา ได้นำรถยนต์กระบะไปขนของในออฟฟิศ และเซฟเว่อร์ของกล้องวงจรปิดไปด้วย ซึ่งเชื่อว่ามีเจตนาป้องกันการตรวจสอบว่าเป็นใครที่เข้ามาปล้นทรัพย์สินของโรงไฟฟ้าดังกล่าว



จากการสอบถามเจ้าหน้าที่วิศวกร ทราบว่า โรงงานหรือ สถานีผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ มีกำลังความสามารถผลิดกระแสไฟฟ้าป้อนให้กับทางไฟฟ้าส่วนภูมิภาคถึงวันละ 6 เมกกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ ได้ก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์แล้วเสร็จเตรียมเดินเครื่อง และส่งกระแสไฟฟ้าได้แล้ว แต่ยังอยู่เพียงขั้นตอนการเจรจาเท่านั้น และก็มาโดนคนร้ายเข้ามาปล้นเอาหม้อแปลงและอุปกรณ์บางอย่างไป



ส่วนคนร้ายที่เข้ามาปล้นและขนอุปกรณ์ไปนั้น ไม่ทราบและไม่รู้จุดประสงค์ หลังจากนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง



วิศวกรคนเดิม ยังบอกอีกว่า จากสภาพและร่องรอยการขนหม้อแปลงในครั้งนี้ น่าจะมีเงื่อนงำซับซ้อน โดยน่าสงสัยว่า อาจเกิดจากการขัดแย้งภายใน หรือไม่ก็อาจเป็นการมายกเอาหม้อแปลงและอุปกรณ์บางอย่างคืนเนื่องจากทางผู้รับเหมาก้อสร้าง และติดตั้งอาจติดค้าง หรือไม่ยอมจ่ายเงินค่าหม้อแปลง รวมถึงสายไฟ จึงมีการหักกันเอง เนื่องจากการขนรถบรรทุกมาถึง 3 คันมาก่อเหตุ และการที่จะเอาหม้อแปลงขนาดใหญ่เช่นนี้ไปขายนั้นเป็นเรื่องยาก ซึ่งน่าจะมีการวางแผนเป็นอย่างดี

logoline