รวบตัวทีมสังหาร "สมยศ สุธางค์กูร" เข้าเซฟเฮ้าส์เค้นสอบ
กรณี 2 คนร้ายบุกจ่อยิงนายสมยศ สุธางค์กูร อายุ 62 ปี อดีตเจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังเสียชีวิตขณะกำลังเดินขึ้นรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ฌร 3636 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถหลังร้านเฮงหูฉลาม ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เมื่อค่ำวันที่ 29 มิถุนายน 2558 โดยชุดสืบสวนตั้งประเด็นการสังหารไว้หลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งเรื่องทวงหนี้สินการพนัน ปัญหาคดีความที่รับวิ่งเต้นคดียาเสพติด และคดีอื่นๆหลายคดี โดยในเบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน. คลองตัน รวบรวมพยานหลักฐานและคำบอกเล่าของพยานแวดล้อม ขออำนาจศาลพิจารณาอนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยจาก ภาพสเกตซ์ 2 คนไว้แล้วนั้น
ล่าสุดความคืบหน้าของคดี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนว่า พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันสอบปากคำ นายภานุพงษ์ หรือแจ้ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในเขต พื้นที่ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ในฐานะผู้ต้องสงสัยทำหน้าที่เป็นมือปืนสังหารนายสมยศ
การสอบสวนเบื้องต้นนายภานุพงษ์ หรือแจ้ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ทำหน้าที่ใช้อาวุธปืน ยิงนายสมยศ ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองพักอยู่บ้านของพ่อย่านตลิ่งชัน แล้วนายนก (ขอสงวนชื่อนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณติดต่อให้มาพบที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา โดยแนะนำให้รู้จักชายคนหนึ่งเรียกว่าอาจารย์ แล้วบอกว่านายสมยศเป็นหนี้พยายามทวงแต่ บ่ายเบี่ยงคาดว่าไม่ได้คืน จึงตัดสินใจรับงานโดยเปิดห้อง พักย่านรามอินทราเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อน 2 คืนก่อนลงมือโดยวันที่ 29 มิถุนายน ในช่วงสายนายนก และอาจารย์ มาพบโดยอาจารย์นำ อาวุธปืนมาให้แล้วนั่งรถยนต์แท็กซี่ไปลงย่านสนามกีฬารัชมังคลาสถานเพื่อพบกับนายหนู (ขอสงวนชื่อนามสกุล) ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วไ ปดักรอยิงนายสมยศ บริเวณร้านเฮง หูฉลาม ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี โดยอาวุธปืนที่ ใช้ก่อเหตุอ้างโยนทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยา เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า