ตร.กัมพูชาปัดข่าวจับผู้ต้องสงสัยบึ้ม"ส่งไทย"

เนื่องจากข่าวที่ทางการไทยจับกุมผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในเหตุวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ ได้ที่จังหวัดสระแก้ว และมีรายงานข่าวบางกระแสออกมาในทิศทางที่ว่า แท้จริงเป็นฝีมือของตำรวจกัมพูชานั้น
ล่าสุดสวันนี้ (2 ก.ย.58) หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ของกัมพูชาเอง รายงานว่า ทั้งหน่วยงานตำรวจและเจ้าหน้าที่ทางการคนอื่นๅ ของกัมพูชา ต่างปฏิเสธรายงานข่าวของสื่อไทยบางฉบับที่ว่า ประเทศไทยได้ร้องขอความช่วยเหลือจากกัมพูชา ให้ช่วยหาตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนที่หลบหนีข้ามชายแดนไปยังกัมพูชา
นายเกิด จันทฤทธิ์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยไม่ได้หนีไปกัมพูชา และทางกัมพูชาได้เฝ้าติดตามคดีนี้อยู่ แต่ไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ มีสื่อในประเทศไทย รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับที่จังหวัดสระแก้ว แท้จริงถูกจับได้ที่สนามบินนานาชาติพนมเปญ ขณะพยายามเดินทางไปยังประเทศตุรกี และยังบอกด้วยว่า การจับกุมถูกปิดเป็นความลับ เนื่องจากเชื่อว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นที่ต้องการตัวของจีน
รายงานของพนมเปญโพสต์ ได้อ้างถ้อยแถลงของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่า ผู้ต้องสงสัยถูกจับได้ที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ฝั่งไทยและอยู่ตรงข้ามกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา และเมื่อถูกถามว่า คิดว่าเป็นคนเดียวกับที่วางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์หรือไม่ นายกฯ ได้ตอบว่า อยู่ระหว่างการสืบสวน และเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญและเป็นชาวต่างชาติ
นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ภาพหนังสือเดินทางที่เชื่อว่าเป็นของผู้ต้องสงสัยทางสื่อออนไลน์ที่ระบุสัญชาติว่าเป็นชาวจีนจากมณฑลซินเจียง บ้านเกิดของชาวอุยกูร์ แต่ทางการไทยไม่ได้ยืนยันเรื่องนี้
ขณะที่เหตุระเบิดที่ราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 58 มีผู้เสียชีวิต 22 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน และไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่ก็เต็มไปด้วยกระแสคาดการณ์กันว่า น่าจะมีสาเหตุมาจากการตอบโต้ที่ไทยส่งกลับชาวอุยกูร์มากกว่า 100 คน ไปยังจีน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา