เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังอย่างละเอียดอีกครั้ง ตั้งแต่บริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ กับท่าเรือสาทร และตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาชายใส่เสื้อสีเหลืองก่อเหตุวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ และผู้ต้องหาชายใส่เสื้อสีฟ้าก่อเหตุวางระเบิดที่ท่าเรือสาทร ใช้เดินทางมาก่อเหตุทั้ง 2 จุด เพื่อหากลุ่มบุคคลต้องสงสัยเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังเน้นตรวจสอบย้อนหลังไปที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ช่วงสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อหารถยนต์ต้องสงสัยคันที่นำวัตถุระเบิดมาส่งให้กับชายเสื้อเหลืองนำไปก่อเหตุว่า มีรถยนต์ต้องสงสัยคันใดขับมาวนเวียนหรือจอดอยู่บริเวณดังกล่าวนานผิดปกติหรือไม่ เพื่อใช้ในการขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางโดยรอบสถานีรถไฟหัวลำโพง ในรัศมี 3 กิโลเมตร พบชายต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 1 คน สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีเข้ม รองเท้าสีขาว สะพายกระเป๋าสีดำ ซึ่งลักษณะของกระเป๋าคล้ายกับกระเป๋าที่ผู้ต้องหาชายเสื้อเหลืองนำไปก่อเหตุที่แยกราชประสงค์
โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพขณะชายต้องสงสัยอีกคนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวรายนี้ ยืนอยู่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง จากนั้นก็เดินข้ามถนนผ่านลานจอดรถตรงกลาง จากนั้นก็เดินข้ามไปยังบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งเป็นจุดที่มือวางระเบิดยืนรออยู่บนสะพานข้ามคลอง หลังจากนั้นกล้องก็ไม่สามารถจับภาพเอาไว้ได้ เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นจุดที่อับที่ไม่มีกล้องวงจรปิด
ต่อมากล้องวงจรปิดอีกตัว สามารถจับภาพเอาไว้ได้ว่า ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวรายนี้เดินตัวเปล่า โดยเดินเลียบไปตามคลองผดุงกรุงเกษมมุ่งหน้าไปทาง สน.นพวงศ์ ก่อนจะหายไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีคาดว่า ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวน่าจะเป็นคนส่งกระเป๋าเป้สีดำบรรจุระเบิดส่งให้กับผู้ต้องหาเสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นมือวางระเบิดขึ้นรถตุ๊กตุ๊กไปก่อเหตุ
โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมว่า ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวจะเดินทางมายังสถานีหัวลำโพงอย่างไร ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เจ้าตัวโดยสารรถไฟนำกระเป๋าเป้บรรจุระเบิดมาส่งให้ ส่วนการเดินทางออกจากบริเวณดังกล่าวนั้น อาจจะมีรถยนต์มารับไป หรือนั่งรถไฟออกไป
รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่พบพาสปอร์ตจำนวนกว่า 200 เล่มซุกซ่อนอยู่ในห้องพักของ นายอาเดม การาดัก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สงสัยจะเกี่ยวพันแก๊งปลอมพาสปอร์ตนั้น มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบพาสปอร์ตทั้งหมดอย่างละเอียดว่า มีบุคคลตามภาพในพาสปอร์ตรายใดที่มีลักษณะคล้ายกับบุคคลในภาพวงจรปิด หรือภาพสเก็ตช์หรือไม่ เนื่องจากอาจจะเกี่ยวข้องเป็นผู้ร่วมขบวนการเดียวกันนี้
