svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผบ.ทบ.เผยรู้ตัวผู้ร่วมก่อเหตุระเบิด 2-3 ราย

31 สิงหาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ฝ่ายความมั่นคงได้เบาะแสผู้ร่วมขบวนการวางระเบิดเพิ่มอีก 2-3 ราย หลังจากสอบปากคำผู้ต้องหา 1 รายที่จับได้ในอพาทเมนต์อย่างหนองจอก และคาดว่าจะใช้เวลาสอบปากคำเพื่อขยายผลอีก 7 วัน โดยยังอยู่ในการควบคุมตัวของทหารที่ ราบ 11

พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก และรัฐมนตรีช่วยกลาโหม บอกถึงความคืบหน้าการสอบสวนผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์ หลังจับกุมตัวได้ 1 ราย ว่า ขณะนี้ทหารอยู่ระหว่างการควบคุมตัวสอบสวนผู้ต้องหา เพื่อขยายผลทางคดีเพิ่มเติม มีฝ่ายตำรวจร่วมสอบสวนด้วย ผลการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมเอ่ยชื่อบุคคลที่ร่วมขบวนการก่อเหตุแล้ว 2-3 คน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้บงการใหญ่ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเป็นบุคคลใด หรือกลุ่มใดบ้าง เพราะเป็นห่วงจะเสียรูปคดี ยืนยันว่า กระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทหาร จะไม่ใช้ความรุนแรง แต่ดำเนินการสอบสวนในลักษณะพูดคุยและสอบถามอย่างระมัดระวัง
ผู้บัญชาการทหารบก ยังพูดถึงการตรวจสอบสัญชาติที่แท้จริงของผู้ต้องหาว่า ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นชาวตุรกีหรือไม่ จากการตรวจสอบพาสปอร์ตแล้วเชื่อว่าเป็นการใช้พาสปอร์ตปลอม และยังไม่ขอชี้ชัดว่าจะเกี่ยวโยงกับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่อาจไม่พอใจไทยที่ส่งตัวชาวอุยกูร์จำนวนหนึ่งให้กับทางการจีนหรือไม่ เพราะต้องรอผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ก่อน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการสอบสวน ประมาณ 7 วัน จึงจะแล้วเสร็จ ก่อนจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการปราบปราม ได้ประชุมเพื่อแบ่งงานให้ฝ่ายสืบสวน ร่วมทีมคลี่คลายคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์ โดยมีการประชุมสรุปผลการปฏิบัติการ หลังจากเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ พร้อมวางแนวทางการสืบสวน ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการแบ่งงานให้แต่ละกองกำกับการ ทำหน้าที่สืบสวนร่วมกับตำรวจนครบาล ในการออกหาข่าวติดตามภาพจากกล้องจรปิดเพิ่มเติม ในบริเวณอพาร์ตเมนต์ของผู้ต้องหาเพื่อขยายผลในกรณีที่อาจจะยังมีผู้ร่วมขบวนการหลงเหลืออยู่
โดย ชุดสืบสวนกองปราบ กำลังเร่งตรวจสอบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้จากที่เกิดเหตุเพื่อขยายผลถึงบุคคลอื่นที่อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการ รวมทั้งเร่งตรวจสอบหนังสือเดินทางโดยให้ร่วมกับสถานทูตตุรกี เพื่อหาแหล่งที่มาที่ไปและข้อมูลหมายเลขในหนังสือเดินทางด้วย และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอาคารที่พักของผู้ต้องหาช่วงเวลาเกิดเหตุยังไม่พบมีผู้ต้องสงสัยรายอื่นปรากฏ
นอกจากนี้กองปราบปราม ได้ประสานงานกับตำรวจ สน.มีนบุรี เพื่อให้ติดตามตัวผู้เปิดห้องเช่าเลขที่ 9106 อาคารไมมูณา การ์เด้นโฮม เขตมีนบุรี มาสอบสวน เพราะเจ้าของหอพักให้การกับตำรวจ ว่า มีหญิงไทยคนหนึ่งใช้ชื่อว่า "ไมซาเลาะ" เป็นคนมาเปิดห้องเช่าไว้ ซึ่งในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นอพาร์ทเมนท์ ยังไม่พบตัว นางไมซาเลาะ ำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวอย่างเร่งด่วน เพราะอาจจะมีส่วนเกี่ยวพันกับขบวนการวางระเบิดในครั้งนี้

logoline