ผบ.ตร.ยันไม่ใช่ก่อการร้ายข้ามชาติ เหตุเจ็บแค้นแทนพรรคพวก

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วันที่ 29 สิงหาคม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังการจับกุมชายชาวต่างชาติภายในห้องพัก ชั้น 4 พูลอนันต์ อพาร์ทเม้นต์ เลขที่ 134/5 หมู่2 ถนนเชื่อมสัมพันธ์ ปากซอย 11 ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมกันจับกุมคนร้าย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นชาติอะไร ได้ 1 คน พร้อมของกลางจำนวนมากที่เป็นชิ้นส่วนใช้ในการประกอบเป็นวัตถุระเบิด
โดยตั้งข้อกล่าวหาว่ามีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง ตำรวจ ทหาร ได้สืบสวนติดตามหาข้อมูลหาหลักฐานจนเป็นที่ประจักษ์ว่าคนร้ายได้หลบหรือซ่อนตัวอยู่ที่อพาร์เม้นต์ในพื้นที่ของสน.หนองจอก ซึ่งได้เข้าจับกุมตั้งแต่ช่วงเช้ามืดประมาณตีห้าก็ได้เข้าจู่โจมจับกุม และได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น ขยายผลว่ามีใครเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ แต่ต้องขออภัยด้วยในส่วนของเรื่องการสืบสวนหรือแม้แต่กระบวนการสอบสวน ยังขออนุญาตไม่เปิดเผยเชื่อว่ามีคนร้ายอีกจำนวนไม่น้อยร่วมขบวนการอยู่ด้วย และยังหลบหนีการจับกุม ทั้งที่เชื่อว่ายังหลบอยู่ในประเทศ และอาจจะมีการเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วบ้าง พล.ต.อ.สมยศ ระบุ

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนมีความเชื่อมโยงหลายคน อาจจะใช่หรือไม่ใช่อีก ก็ยังด่วนสรุปไม่ได้ ต้องขอเวลาให้ทำการสืบสวน เพราะการจับกุมไม่ใช่ว่าสเก็ตภาพ ออกหมายจับ แล้วจะจับเลย เพราะว่าหน้าตาก็ไม่เหมือนกับภาพที่สเก็ตซ์ ก่อนที่จะจับกุมได้ทำการสืบสวน ทั้งหาข่าว พยานหลักฐานหลายๆ อย่าง นำมาประกอบจนมั่นใจว่าเป็นคนร้าย ตนเชื่อมั่นและมั่นใจว่าเป็นคนร้ายเกี่ยวข้องหรืออยู่ในขบวนการก่อเหตุ การจับกุมในวันนี้มาจากทุกๆ กรณีทั้งพี่น้องประชาชนให้ข้อมูล ความสามารถของเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมกันทำงาน โดยการนำประสบการณ์ความรู้ความสามารถที่มีมาใช้ ที่สำคัญคือความมุ่งมั่นความตั้งใจ ความทุ่มเทไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยจึงทำให้สามารถจับกุมได้
มั่นใจว่าชายต่างชาติคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะหลักฐาน หรือของกลางที่ยึดได้ เป็นของกลางชนิดเดียวกันประเภทเดียวกันหรือคล้ายกัน จึงทำให้มั่นใจ เจ้าหน้าที่มีข้อมูลทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นใคร มากันอย่างไร และทำกันเพื่ออะไร ซึ่งทำเป็นขบวนการผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น ส่วนรายละเอียดเบื้องต้นยังไม่ขอเปิดเผยเพราะเกรงว่าการทำงานขยายผลของเจ้าหน้าที่จะทำได้ยากลำบากขึ้น จะทำให้คนร้ายที่ร่วมขบวนการไหวตัวและรู้ตัว ขณะนี้ข้อมูลต่างๆ ก็ถูกเปิดเผยไปเยอะแล้วจากที่ติดตามในสื่อโซเซียลมีเดีย เจ้าหน้าที่พยายามปกปิดแต่ก็ยังปิดไม่ได้พล.ต.อ.สมยศ ระบุ
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า กระบวนการนี้มีไม่น้อยอาจถึง 10 คน แต่เป็นเรื่องของการสืบสวน จะให้ชัดหรือแน่นอนก็จะต้องรอผลการสอบสวนอีกที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะทำอะไรไม่ได้ถ้าหากผู้ต้องหาไม่ยอมให้การหรือให้ข้อมูล เบื้องต้นก็สามารถคลี่คลายในสิ่งที่ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนทั่วประเทศก็รอคอยอยู่ ว่าตำรวจไทย เจ้าหน้าที่ไทย หรือรัฐบาลไทยจะสามารถดำเนินการคลี่คลายคดีนี้ได้หรือไม่ วันนี้ถึงจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนก็รู้สึกโล่งขึ้น ตอนนี้ตัดประเด็นออกไปได้เยอะแล้ว แต่อย่าให้ผมรีบพูดไปเลยว่าที่เขาลงมือก่อเหตุหรือก่อเหตุร้ายครั้งนี้เป็นเพราะอะไร ส่วนพาสปอร์ตที่พบในห้องพักจำนวนหลายเล่มนั้นต้องถือว่ากระบวนการหรือจุดเริ่มต้นนั้นก็คือการทำพาสปอร์ตปลอม ถือพาสปอร์ตปลอม ทั้งนี้พาสปอตปลอมมีหลายเล่มแต่ละเล่มก็มีหลายชื่อ ต้องรอการพิสูจน์ทราบ เพราะตัวผู้ต้องหาเองก็ถือพาสปอร์ตปลอม

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า ทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นใคร เมื่อไปค้นก็เจอพาสปอร์ตของผู้ต้องหา ผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าเป็นพาสสปอร์ตปลอม ก็ต้องดำเนินการหากผู้ต้องหาเป็นคนสัญชาติไหนก็จะต้องประสานไปยังต่างประเทศตามขั้นตอน
ผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติแต่ผมยืนยันว่าไม่ใช่การก่อการร้าย เป็นเหตุของความขัดแย้งส่วนตัวที่โกรธแค้น เจ็บแค้นแทนพรรคพวกเพื่อน แต่ไม่ใช่ขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ อย่าให้ผมลงลึกไปในรายละเอียดเลย แต่เอาเป็นว่าญาติพี่น้องของเขาถูกจับในทำนองนี้ พล.ต.อ.สมยศ ระบุ
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวตามอำนาจ แต่หลังจากนั้น เมื่อครบกำหนดเวลาก็จะส่งมอบตัวให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้อมูลการสอบสวนเบื้องต้นยังมีไม่มากนักเพราะภาษาที่ใช้และขั้นตอนของการสอบสวนเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ ข้อมูลพบว่าทางผู้ต้องหามีการเข้าๆ ออกๆภายในอาพาร์ทเม้นต์มานานแล้ว มีการเคลื่อนไหวเป็นปี โดยเข้ามาอยู่ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 57