จับเพิ่มผู้ต้องหา ร่วมขบวนการยูฟัน

พล.ต.ท.สุวิระ เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนทราบว่านายภาคภูมิ เป็นกลุ่มโครงข่ายกลุ่มพาซิโอ มีนายรัฐวิชญ์ เป็นหัวหน้ากลุ่มทำหน้าที่อัพเดพไลน์เป็นวิทยากร หรือพิธีกรบรรยายชักชวนประชาชนเข้าร่วมธุรกิจ บ.ยูฟันฯ ที่ปรากฏตามเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค ยูทูป อีกทั้งมีหลักฐานเส้นทางการเงินบัญชีธนาคาร โอนรับไปยังบัญชีของน.ส. พิรญา หารพรม ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้จำนวน 350,000 บาท และโอนให้กับนายอภินพ ศรศานต์ภร ผู้ต้องหาถูกจับกุม จำนวน 310,000 บาท และตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินหมุนเวียนให้กับ บ.ยูฟันฯ จำนวน 1,400 รายการ รวมทั้งสิ้น 11 ล้านกว่าบาท นอกจากนี้นายภาคภูมิ ยังได้พูดผ่านรายการทางโทรศัพท์ช่องหนึ่ง (Now26) ขณะเป็นพิธีกร ทางเคเบิ้ลทีวี ในพัทยา จ.ชลบุรี กล่าวหาว่าการทำงานของตำรวจ ไม่ถูกต้อง แต่ บ.ยูฟันฯ ถูกกฎหมาย จึงออกหมายจับกุมดังกล่าว

ส่วนการติดตามผู้ต้องหา 116 ราย เราได้ส่งตำรวจกว่า 150 นาย ออกติดตามอย่างใกล้ชิด ในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ ต้องจับกุมผู้ต้องหาหลบหนีให้ได้ไม่ต่ำกว่า 100 ราย ในจำนวนนี้มีบุคคลสำคัญทั้งในวงการการเมือง ศิลปินดารา และไฮโซ รวมถึงบุคคลที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศด้วย พล.ต.ท.สุวิระกล่าว

ด้านพ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ถูกออกหมายจับหลบหนี 116 ราย ตำรวจได้ดำเนินการแจ้งข้อมูลให้เจ้าตัวทราบด้วยที่การต่างๆ ทั้งการส่งหมายจับไปยังภูมิลำเนา และโทรศัพท์ติดต่อให้เข้ามามอบตัว ดังนั้นบุคคลเหล่านี้ควรเข้ามามอบตัว เพื่อจะได้รับสิทธิ์ในการพิจารณารับประกันตัว เพราะหากจะหลบหนี ส่วนจะทำผิดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานนำมาขึ้นสู่กระบวนการศาล หากตำรวจติดตามจับกุมได้จะคัดต้านการประกันตัว เบื้องต้นมีบุคคลหลบหนีอยู่ต่างประเทศติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว 2-3ราย แต่ยังไม่ระบุวันและเวลา ส่วนการอายัดทรัพย์สิน พบว่า มีบุคคลยับย้ายทรัพย์สินของผู้ต้องหาถูกจับกุมไปเป็นจำนวนมาก คาดว่าสัปดาห์จะติดตามได้ 4-5รายการ มูลค่าหลายสิบล้านบาท แลบุคคลเหล่านี้เข้าข่ายเป็นผู้ต้องหาในการฟอกเงิน เนื่องจากทรัพย์สินที่ตำรวจยึดอายัดมาได้ ไม่เพียงแค่ 830 ล้าน แต่ยังมีผู้ต้องหาโยกย้ายถ่ายเทไปยังพื้นที่อื่นและตำรวจจะติดตามยึดอายัดกลับมาให้ผู้เสียหายให้มากที่สุด

สอบสวนนายภาคภูมิ ให้การว่า ได้ร่วมลงทุนธุรกิจยูฟันฯ เพราะมีเพื่อนแนะนำเป็นธุรกิจที่มีรายได้ดี ประกอบกับต้องการใช้หนี้ให้กับพ่อแม่ กระทั่งเดือนเมษายน 2557ได้ยืมเงินกับญาติ 2 แสนบาท นำไปซื้อยูโทเคน ก่อนเข้าร่วมอบรมฝึกหันเป็นผู้บรรยาย โดยมีนายรัฐวิชญ์ หรือโน๊ต ฐิติอรุณวัฒน์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาหลบหนี เป็นพิธีกรและผู้บริหาร บ.ยูฟันฯ ทำให้เกิดความไว้ใจ ทุกครั้งที่มีการอบรมสมาชิกใหม่ ต้องให้ตนขึ้นเวทีเล่าถึงความสำเร็จของการลงธุรกิจกับ บ.ยูฟันฯ และถูกส่งให้ไปออกรายการ ทางสถานีโทรทัศน์ระบบเอชดีหลายช่อง เพื่อประชาสัมพันธ์อธิบายค่าเงินยูโทเคน สามารถซื้อสินค้าแบรนด์เนมได้จริง และตนมีการชักชวนญาติ และคนใกล้ชิด 30 คน และมีการขยายต่อไปเป็น 2,000 คน ทั้งนี้ยอมรับว่าได้รับรู้ข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว และเชื่อว่ายูฟันเป็นธุรกิจถูกกฎหมาย รวมถึงการต่อต้านการทำงานของตำรวจด้วย ส่วนเงินในบัญชี 11ล้านบาทนั้น เป็นเงินซื้อขายยูโทเคน และการทำธุรกิจอย่างอื่นด้วย