svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับหลานชายขโมยเงินเจ้าอาวาส

30 กรกฎาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รวบแล้วโจรใจบาปงัดกุฏิขโมยเงินเจ้าอาวาสวัดดังบุรีรัมย์กว่า 1.8 ล้านที่แท้เป็นหลานชายในไส้หลวงพ่อเองที่เคยชุบเลี้ยงและบวชให้สารภาพเงินที่ขโมยนำไปกินเหล้าเที่ยวผู้หญิงหลังสำนึกผิดกราบอ้อนวอนหลวงพ่อให้อภัยแต่หลวงพ่อเมินปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจเอาผิดตามกฎหมาย


ความคืบหน้าเหตุคนร้ายบุกงัดกุฏิเข้าไปขโมยเงินของพระครูสังวรโพธิวัฒน์หรือฉายา สวโร อายุ 82 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองมะเกลือ ม.17 ต.หนองตาดอ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่บรรจุใสถุงพลาสติกไว้ในห้องเก็บของจำนวน 5 ถุงรวมกว่า 1,800,000 ล้านบาทโดยเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ญาติโยมมาทำบุญ บริจาคและเงินที่ได้จากการทอดกฐิน ผ้าป่าที่เก็บรวบรวมไว้บูรณะซ่อมแซมศาลาการเปรียญ สิ่งปลูกสร้างภายในวัดและเตรียมไว้จัดงานฝังลูกนิมิตในช่วงเดือน เม.ย.2559ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับตำรวจ สภ.พุทไธสงสามารถติดตามสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว คือนายวิวัฒน์ หุสิกา อายุ38 ปี ขณะนั่งดื่มเหล้าเมาไม่ได้สติอยู่บ้านเลขที่ 73 ม.12 ต.บ้านยางอ.พุทไธสง ซึ่งเป็นบ้านตนเองจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบสวนและพาไปเอาของกลางเงินสดที่ขโมยมาที่ฝากไว้กับนางวันทอง ตองติดรัมย์ อายุ 60 ปีเจ้าของร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในอ.พุทไธสง ที่นับถือเป็นแม่บุญธรรมโดยสามารถยึดเงินสดได้จำนวน 230.000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาทรถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่นอน 1 หลัง และชุดเครื่องเสียงคาราโอเกะอีก 1ชุดรวมมูลค่าทั้งเงินสดและทรัพย์สินที่ตรวจยึดคืนมาได้ประมาณ 400,000 บาทที่นายวิวัฒน์ นำเงินที่ขโมยมาไปซื้อไว้


ส่วนเงินที่หายไปนายวิวัฒน์ยอมรับว่าได้นำไปกินเหล้า เที่ยวผู้หญิงเมามายทุกวันจนเป็นที่สงสัยของชาวบ้านว่านายวิวัฒน์นำเงินมากมายจากไหนมากินเที่ยวทั้งยังหลอกแม่และคนในครอบครัวว่าเงินที่ได้มากินเที่ยวได้มาจากการจำหน่ายยาบ้ากระทั่งถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบเบาะแสและติดตามจับกุมได้และนายวิวัฒน์ ได้กราบอ้อนวอนให้หลวงพ่ออโหสิกรรมให้แต่หลวงพ่อกลับเมินพร้อมระบุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายโดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายวิวัฒน์ โจรใจบาป ลักทรัพย์ส่วนนางวันทอง ที่รับฝากเงินที่นายวิวัฒน์ขโมยมาข้อหา รับของโจรด้วย


จากการสอบสวนนายวิวัฒน์ ยอมรับว่าเป็นหลานเจ้าอาวาสเคยมาอาศัยอยู่กับหลวงพ่อ และบวชเป็นพระที่วัด สึกออกไปได้ประมาณ 2ปีกว่า จากนั้นก็ไม่ได้ทำงานอะไรต่อมาไม่มีเงินใช้จึงมาขโมยเงินหลวงพ่อที่ซุกซ่อนไว้ในกุฏิหลายครั้งทุกครั้งจะก่อเหตุเพียงคนเดียวโดยอาศัยช่วงที่หลวงพ่อและพระลูกวัดออกไปบิณทบาตรและรับกิจนิมนต์ไม่มีใครอยู่วัด พอได้เงินก็จะนำไปกินเหล้าเที่ยวเตร่พอเงินหมดก็จะกลับมาขโมยซ้ำอยู่อย่างนี้เรื่อยมาแต่ละครั้งนี้จะขโมยเป็นหลักแสนสุดท้ายหลวงพ่อรู้จึงแจ้งตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมได้ดังกล่าว

logoline