อัยการญี่ปุ่นสอบ"บิ๊กแจ๊ด"พฤหัสฯนี้ คาดฝากขังต่ออีก 10 วัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) --- เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 58 พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ โฆษก ตร. แถลงความคืบหน้ากรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (อดีต ผบช.น.) ถูกจับกุมที่ประเทศญี่ปุ่น ว่า ขณะนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยังไม่ได้รับการประกันตัว โดยได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่นได้เข้าไปเยี่ยม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ โดยได้สอบถามความต้องการว่าอยากให้ช่วยเหลืออะไรหรือไม่ และสอบถามความต้องการเรื่องเอกสารต่างๆ โดยทราบว่าขณะนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยังมีสุขภาพดี และหลังจากนี้ทางสถานทูตจะได้ดำเนินการต่อวีซ่าให้แก่คณะผู้ติดตามของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ บางคนที่ยังขออยู่ในประเทศญี่ปุ่นต่อไป เพื่อติดตามความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ ทางทนายความจะดำเนินการในเรื่องเอกสารต่างๆ เช่น การรับรองใบอนุญาตการใช้และพกพาอาวุธปืน และทางภรรยาของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ประสานว่าอยากให้ลูกชายได้เข้าเยี่ยมบิดา เพราะทุกวันนี้มีเพียงทนายความและเจ้าหน้าที่ทูตเท่านั้นที่ได้เข้าไปเยี่ยม
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันในวันที่ 2 ก.ค.นี้ พนักงานอัยการญี่ปุ่นจะทำการสอบสวน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นครั้งแรก ก่อนที่จะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 1 ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีการฝากขังต่อเป็นครั้งที่ 2 โดยสามารถทำได้ในระยะเวลาอีก 10 วัน อย่างไรก็ตามอัยการอาจสั่งฟ้องคดีก่อนก็ได้ โดยไม่ต้องรอให้ครบ 20 วันตามกำหนด ส่วนอัยการจะสั่งคดีอย่างไรนั้นไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการรับรองอาวุธปืนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทาง โฆษก ตร. บอกว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาวุธปืนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่ถูกจับกุมนั้นมีใบอนุญาตพกพาหรือไม่ เนื่องจากไม่มีการรับรองที่เป็นทางการแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัดว่าปืนกระบอกดังกล่าวเป็นปืนขนาด .38 หรือ ขนาด .22 กันแน่ อาจมีความคลาดเคลื่อนได้ นอกจากนี้ทางการท่าอากาศยานไทยเองก็ยังไม่พบว่ามีการนำปืนออกนอกประเทศโดยบรรจุมาในกระเป๋าใบไหน ซึ่งต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง
ตอนนี้มันเลยขั้นตอนของการยืนยันสถานะส่วนตัวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นอดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของไทย เพราะเป็นที่รับรู้กันดีแล้ว แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการรับรองเกี่ยวกับอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว โดยความคืบหน้าล่าสุดนั้นทางทนายความพยายามดำเนินเรื่องยืนยันว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ นั้นมีปืนสะสมที่อยู่ในความครอบครองเป็นจำนวนมาก รวมถึงการมีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนในประเทศไทย แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าปืนกระบอกที่ถูกจับดังกล่าวมีใบอนุญาตหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว