พล.ต.ท.อำนวย ผบช.ภ1 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 พ.ค.58 เวลา 00.30 น.ได้มีคนร้ายใช้ปืนยาวติดกล้องส่องแบบสไนเปอร์สังหารนายทิวะพันธุ์ เปาอินทร์ อายุ 31 ปี ลูกชาย พ.ต.อ.อนันต์ เปาอินทร์ อายุ 73 ปี และเป็นหลานของ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตรองนายกฯ เสียชีวิต ขณะกำลังอุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ เดินมาส่งเพื่อนที่เป็นตำรวจ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 258/20 ซอย งามวงศ์วาน 9 แยก 5 ถนน งามวงศ์วาน ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี
หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 ร่วมกับสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามร่วมกันทำงานสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุครั้งนี้โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำพยานหลายปากมาสอบสวน พร้อมทั้งยังได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คาดว่าจะเป็นเส้นทาง ที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่ารถคนร้ายได้ขึ้นทางด่วน งามวงศ์วาน จึงได้ตรวจพบว่ารถของคนร้ายได้ใช้ระบบจ่ายเงินค่าผ่านทาง แบบ อีซี่พาสจนทราบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อนเหตุคือ นาย เขมทัต ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของนาย ทิวะพันธุ์ เปาอินทร์ ผู้ตายเองทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัด นนทบุรีเข้าทำการจับกุมตัวได้ที่ คอนโดแห่งหนึ่งในกทม.
จากการสอบปากคำนาย เขมทัต ให้การรับสารภาพ ว่า ตนได้ทำงานกับผู้ตายโดยได้ช่วยขายรถและทวงหนี้ จากลูกค้าที่ซื้อรถไปและนำรถมาจำนำซึ่งนาย ทิวะพันธุ์ ผู้ตายได้บอกว่าจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ จากการขายรถและทวงหนี้เก็บค่าดอกจากการรับจำนำรถร่วมกันแล้ว เป็นจำนวนเงิน เกือบ4 ล้านบาท ตนจึงได้ทวงถามเงินส่วนที่ได้ แต่นาย ทิวะพันธุ์ ไม่ให้และยังข่มขู่อีก จึงทำให้โกรธแค้น จึงได้สั่งซื้อปืน เอ็ม 16 มารุ่น เอ 1 มาก่อเหตุครั้งนี้ โดยในวันเกิดเหตุได้ขับรถยนต์มาจอดยังจุดเกิดเหตุแล้วนำอาวุธปืน ไปดักซุ่มอยู่ในดงป่ากระถิน รอจังหวะที่ผู้ตายเดินออกมา พอผู้ตายเดินออกมาจึงเล็งปืนที่หัวใจยิงเป็นนัดแรก และยิงซ้ำอีก 3 นัด ยิงขู่อีก 2 เพื่อไม่ให้เพื่อนผู้ตายเข้ามาช่วย รวม 6 นัด
หลังจากยิงเสร็จได้ ขับรถยนต์หลบหนีออกไปทางปากซอย งามวงศ์วาน 3 แล้วขับหลบหนีขึ้นทางด่วน เข้าด่านงามวงศ์วาน มุ่งหน้าไปทาง ดาวคะนอง-บางมด ก่อนจะไปลงทางด่วนพระราม 2 แล้วหาที่จอดเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดง ร-8360 กทม มาเป็นทะเบียน กน-1552 ลพบุรี ก่อนจะขึ้นทางด่วนย้อนกลับมายังที่พักย่านดอนเมือง แล้วได้เปลี่ยนที่พักอยู่ตลอดจนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ส่วน รถยนต์ หลังก่อเหตุได้นำไปขาย และมีผู้ซื้อรถไปแต่ขายไปได้เพียงวันเดียว คนที่รับซื้อไปได้นำมาคืน โดยบอกว่ารถขับไม่ค่อยดี ต่อมาตนจึงได้ให้ลูกน้องนำรถไปขายให้กับนาย ตั้มฟู เจ้าของเต็นท์รถมือสองย่านศรีนครินทร์ จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
ก่อนจะนำตัวนายเขมทัตไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดซุ่มยิงนายทิวะพันธ์และไปขอขมากับพ.ต.อ.อนันต์เปาอินทร์พ่อผู้ตายกับญาติซึ่งพ.ต.อ.อนันต์ได้อโหสิกรรมให้พร้อมกล่าวสั้นว่าพี่เค้ารักคิมมากคิมไม่น่าทำอย่างนี้โหดเหี้ยมมากก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไปโดยมีญาติส่วนหนึ่งของผู้ตายพยายามเข้ารุมประชาทัณณ์จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบนำตัวนายเขมทัตออกไปขึ้นรถขับออกไปอย่างไปรวดเร็ว