svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบสาวลำพูน ล่อลวงมีเพศสัมพันธ์ต่างชาติ ก่อนฉกทรัพย์ คดีติดตัวอื้อ

20 เมษายน 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เชียงใหม่-รวบสาวลำพูน ล่อลวงมีเพศสัมพันธ์ต่างชาติ ก่อนฉกทรัพย์ หลายคดี มูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30น. วันที่ 19 เมษายน ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ไชยชนะ พนง.สอบสวน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าได้มีการควบคุมตัวผู้หา คดีลักทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคดี ทราบชื่อว่า นางกีรติ อู่สุวรรณทิม อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 143 หมู่ 7 ต.หนองปลาสะวาย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน โดยสามารถควบคุมตัวไว้ได้ที่ ร้านกาแฟแบล็คแคนยอน สาขาเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่
พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากช่วงเช้าวันนี้ ได้มีผู้เสียหาย 2 รายได้แก่ น.ส.ฉัตรศิรินทร์ ขันทราช อายุ 55 ปี และ นายเดวิด สเลเว่น นักธุรกิจชาวอเมริกัน อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นหุ้นส่วนโรงแรมขึ้นชื่อย่านถนนศิริมังคลาจารย์ ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ว่า ได้มีหญิงสาวชาวไทย หน้าตาดี ทราบภายหลังว่าชื่อ นางกีรติ อู่สุวรรณทิม ได้มีการขโมยของภายในห้องพักของนายเดวิด มูลค่ารวมกว่า 3 แสนบาท ทั้งยังมีการล่อลวงแสร้งทำเป็นกลับใจจะคืนของที่ขโมย แล้วกลับฉกเอาบัตรเครดิตของ น.ส.ฉัตรศิรินทร์ ไปซื้อทองอีกด้วย
โดย น.ส.ฉัตรศิรินทร์ ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนและนายเดวิด เป็นหุ้นส่วนประกอบธุรกิจโรงแรมเดอะเนสท์เชียงใหม่ เลขที่ 21/2 ซ.5 ถนนศิริมังคลาจารย์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยเมื่อช่วงปี 2557 นายเดวิดได้มีการติดต่อกับหญิงสาวชาวไทยคนหนึ่งผ่านเว็บไซต์หาคู่ชื่อดัง(ไทยคิวปิดดอตคอม) และได้มีการนัดเจอและมีเพศสัมพันธ์กัน กว่า 10 ครั้ง รวมทั้งยังได้มีการคบหาโดยไปเที่ยวค้างคืนยังต่างจังหวัดด้วยกัน โดยหญิงสาวดังกล่าวใช้ชื่อว่าฟ้า ทราบภายหลังว่าชื่อนางกีรติ ผู้ต้องหาดังกล่าว กระทั่งราวกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2557 นางกีรติ ได้มาค้างคืนยังห้องพักของนายเดวิด ที่อยู่ภายในโรงแรมเดอะเนสท์เชียงใหม่ดังกล่าว กระทั่งรุ่งสางเมื่อนายเดวิดตื่นขึ้นมาก็พบว่า ของมีค่าอาทิ กล้องดิจิตอล ยี่ห้อนิคอน มูลค่ากว่า 2.1 แสนบาท และไอพอด มูลค่ากว่า 1 หมื่นบาท หายไป ไม่สามารถติดต่อกับนางกีรติได้ ซึ่งขณะนั้นนายเดวิดยังไม่ได้มีการแจ้งความแต่อย่างใด
กระทั่ง เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา นางกีรติได้มีการติดต่อกับนายเดวิดอีกครั้ง โดยแสร้งทำทีว่า สำนึกผิด ขอพบกับนายเดวิดอีกครั้ง และจะคืนทรัพย์สินที่ขโมยไปทั้งหมด อ้างว่าทรัพย์สินดังกล่าวยังคงเก็บเอาไว้ไม่ได้เอาไปขาย นายเดวิดจึงตายใจ โดยนางกีรติจึงได้มาหานายเดวิดที่ห้องพักและมีสัมพันธ์กันอีกครั้ง แต่เมื่อนายเดวิดถามหาทรัพย์สินนางกีรติก็อ้างว่าอยู่ในรถยนต์ของพี่สาว กระทั่งนายเดวิดเผลอ นางกีรติก็ได้ฉกเอาบัตรมาสเตอร์การ์ด ที่วางอยู่บนโต๊ะนายเดวิด และหลบหนีหายไป โดยมาสเตอร์การ์ดดังกล่าวเป็นของตน (น.ส.ฉัตรศิรินทร์) ที่ได้ฝากนายเดวิดเอาไว้
โดยหลังจากที่นางกีรติได้ขโมยบัตรเครดิตดังกล่าว มาแล้ว ก็ได้เอามารูดซื้อสินค้าราคาแพงจำนวนมาก อาทิ ทองคำ และอุปกรณ์มือถือ ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว มูลค่ากว่า 5 หมื่นบาท กระทั่งธนาคารฯได้พบพิรุธการใช้จ่าย เนื่องจากปกติแล้วบัตรดังกล่าวไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวทางการเงิน มีเพียงจ่ายค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยต่อเดือน จึงได้มีการติดต่อมายังตน แต่ไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากขณะนั้นตนไปทำธุระยังต่างประเทศ ทางธนาคารจึงอายัติบัตรและสินค้าที่นางกีรติกำลังซื้อไว้ก่อนบางส่วน ซึ่งขณะนั้นเนื่องจากนางกีรติได้รูดบัตรซื้อสินค้าแล้วตามปกติ ที่ร้านอุปกรณ์มือถือชื่อร้านเอ็กซเรย์ช็อป แต่พนักงานขายกลับไม่ส่งสินค้าให้ นางกีรติจึงได้มีปากเสียงโวยวายกับพนักงาน ซึ่งทางพนักงานก็ได้มีการบันทึกทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของนางกีรติไว้อย่างชัดเจน
โดยภายหลังเมื่อนางกีรติทราบว่าไม่สามารถนำสินค้าออกจากร้านได้ ก็ได้เดินทางกลับ กระทั่งเมื่อตน(น.ส.ฉัตรศิรินทร์) ได้เดินทางกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา จึงได้ทราบเรื่องดังกล่าว และได้มีการพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับนางกีรติกว่า 100 ครั้ง กระทั่งนางกีรติรับสาย จึงได้แสร้งทำทีว่าจะขอไกล่เกลี่ย และจะไม่เอาเรื่องหรือแจ้งความ ขอเพียงนางกีรติยอมคืนบัตรเครดิต โดยนัดพบกับนางกีรติที่ร้านแบล็คแคนยอน สาขาเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว ในช่วงสายวันนี้ ขณะที่ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ซุ่มอยู่ในพื้นที่กระทั่งสามารถรวบตัวได้ดังกล่าว
พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้มีการควบคุมตัวนางกีรติมาสอบสวน ก็พบว่ามีผู้เสียหายอีกหนึ่งราย เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวโบลิเวีย ได้มาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ ว่าได้มีสัมพันธ์กับหญิงสาวชาวไทย และถูกขโมยทรัพย์สินไปเช่นกัน ซึ่งจากรูปพรรณสันฐานของคนร้ายคล้ายคลึงกัน จึงได้ติดต่อให้เข้ามาที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์เพื่อชี้ตัว กระทั่งพบว่า เป็นผู้ต้องหาคนเดียวกัน ทั้งยังเชื่อว่านางกีรติมีพฤติกรรมชอบตีสนิทชาวต่างชาติที่ค่อนข้างมีฐานะ และคบหามีสัมพันธ์กระทั่งเหยื่อตายใจจึงขโมยทรัพย์สินมีค่า คาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก จึงได้ควบคุมตัวนางกีรติไว้ และเตรียมพยานหลักฐาน และหมายศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

logoline