ฝากขังครั้งแรก "ป๋าชื่น" เจ้าของบริษัทจัดสรรที่ดิน แอบอ้างเบื้องสูงกว้านซื้อที่ชาวบ้าน

สำนักข่าวเนชั่น - เกศินี แตงเขียว 28 ก.พ. 58ศาลอาญา อนุญาตฝากขังครั้งแรก ป๋าชื่น เจ้าของบริษัทจัดสรรที่ดิน ย่านโคราช ร่วมกับพวกแอบอ้างเบื้องสูงกว้านซื้อที่ชาวบ้าน ปี 50-51 ขณะที่รอลุ้นประกัน หลังญาติหอบเงินสด 3 ล้านขอปล่อยตัว ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 28 ก.พ.58 เวลา 09.50 น. ว่าที่ พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามคุม ควบคุมตัว นายบุญธรรม หรือป๋าชื่น บุญเทพประทาน อายุ 65 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 377/2558 ลงวันที่ 19 ก.พ.58 คดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-11มี.ค.นี้เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และรอผลตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร รวมทั้งรวบรวมเอกสารอื่นๆ โดยพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย โดยคำร้องฝากขัง บรรยายพฤติการณ์ สรุปว่า เมื่อระหว่างปี 2550 2551 ต่อเนื่องกัน นายบุญธรรม ผู้ต้องหา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท บ้านชุมทอง จำกัด และบริษัท เขาใหญ่ เบเวอร์ลี่ฮิลล์ จำกัด หลังร่วมกับนายเสฏฐวุฒิ เพ็งดิษฐ์ น้องชายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มอบตัวก่อนหน้านี้ และถูกฝากขังต่อศาลไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ก.พ.58 ตามคำร้องที่ พ.539/2558 ซึ่งเป็นนายหน้าที่ดิน ติดต่อหาซื้อที่ดิน บริเวณเขาหนองเชื่อม และมีที่ดินบางส่วนทับซ้อนของที่ทหารหน่วยรบพิเศษหนองตะกูซึ่งตามวัน-เวลาเกิดเหตุ นายเสฎฐวุฒิ ได้ติดต่อชาวบ้านที่เป็นผู้ครอบครองที่ดินในนิคมสร้างตนเองลำตะคอง เพื่อซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าว โดยนายเสฎฐวุฒิได้แจ้งกับชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับที่ดิน แอบอ้างว่านายบุญธรรม ผู้ต้องหาจะมอบที่ดินบริเวณดังกล่าวให้กับหม่อมศรีรัศมิ์ อดีตพระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เพื่อสร้างวัง ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยชาวบ้านได้ขายที่ดินให้กับบริษัทฯ ของนายบุญธรรม ผู้ต้องหาในราคาถูกแล้วผู้ต้องหากับพวก ยังได้แอบอ้างเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดิน ก่อนนำที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรขายให้กับบุคคลทั่วไปในราคาสูง อันเป็นการอาศัยอำนาจและอิทธิพล การกระทำดังกล่าวทำให้รัชทายาท เสื่อมเสียพระเกียรติยศ และทำให้ประชาชนหมิ่นประมาท ดูหมิ่น รัชทายาท เหตุเกิดที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมากระทั่งวันที่ 27 ก.พ.58 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ร่วมจับกุม นายบุญธรรม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ได้ที่ลานจอดรถในปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. แล้วนำส่งคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ฯ ที่อัตราโทษตั้งแต่ 3-15 ปี ในชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาขณะที่ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาญาติของนายบุญธรรม ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 ล้านบาทเพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขังนี้ ขณะที่คำร้องขอประกันยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ผู้ต้องหาในคดีแอบอ้างเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังร่วมกับนายเสฏฐวุฒิ เพ็งดิษฐ์ น้องชายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มอบตัวก่อนหน้านี้ เป็นนายทุนแอบอ้างเบื้องสูง ใช้อุบายหลอกซื้อที่ดินในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง