svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

3 โจรวางยาแม่หมา ก่อนบุกปล้นเจ้าอาวาส

25 มกราคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คนร้าย 3 คนวางยาเบื่อสุนัขและบุกกุฎิพระครูสถิตสิลโสภิต เจ้าอาวาสวัดโบสถ์อัมพวา อ.ไชโย จ.อ่างทอง จับมัดมือไพล่หลังและใช้จีวรคลุมตัวไว้ ก่อนที่จะทำการปล้นทรัพย์สินภายในกุฎิ ได้เงินสด 610,000 บาท โทรศัพท์มือ กล้องถ่ายรูป และพระเครื่องเก่าแก่จำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้ โดยกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไว้ได้ ทั้งหมดสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้าและสวมถุงมือมาเพื่อป้องกันรอยนิ้วมือ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโบสถ์อัมพวาเพื่อติดตามความคืบหน้าพบว่าบรรยากาศที่วัดเป็นไปอย่างเงียบเหงา กุฎิเจ้าอาวาสถูกปิดไว้ มีเพียงลูกศิษย์วัดที่มาอยู่และจับกลุ่มกันวิพากษ์วิจารย์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบถามนายมาโนชญ์ ปัญญา อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดน่าน กล่าวว่า ตนและพี่ๆ น้องๆ เป็นลูกศิษย์ของเจ้าอาวาส เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น หลังจากทราบข่าวเลิกงานก็รีบมาที่วัดทันที รู้สึกเป็นห่วงเจ้าอาวาสมาก เกรงจะพวกคนร้ายจะกลับมาอีก จึงตัดสินในนอนกันที่วัด เพื่อคอยเป็นยามเฝ้าที่วัด เผื่อคนร้ายย้อนกลับมาจะได้ช่วยเหลือเจ้าอาวาสได้ทัน

ต่อมาผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นมีผู้หญิงกำลังใช้ขวดนมให้นมกับลูกสุนัขที่ยังไม่ลืมตาอยู่ในลังกระดาษก็เข้าไปสอบถาม จึงทราบว่า ลูกหมาในลังนั้นมีจำนวน 10 ตัว นอกจากนั้นข้างๆ ยังมีลูกหมาอยู่ในกรงอีก 5-6 ตัว โดยแม่หมา 2 คอกนั้น ถูกคนร้ายวางยาเบื่อตายไป

จากการสอบถาม น.ส.นงคราญ บุตรเครือ อายุ 29 ปี ชาวกรุงเทพฯ และเป็นลูกศิษย์ของเจ้าอาวาสด้วย กล่าวว่า ทราบข่าวจากสื่อฯ ก็ชวนเพื่อนๆ มาที่วัด โดยมาเห็นลูกหมานอนร้องกันเสียงดัง จึงไปเก็บมาใส่กล่องไว้ และทราบว่าแม่หมาทั้งหมดนั้น ถูกคนร้ายวางยาเบือตายไป ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

เห็นว่าลูกหมาหิวเลยไปหาซื้อขวดนมและนม มาป้อนให้ลูกหมาดูดเพื่อให้อิ่ม เพราะหากปล่อยไว้อย่างนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าลูกหมาจะเอาตัวรอดหรือไม่ อาจจะตายก็เป็นได้ ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าคนร้ายใจทำด้วยอะไร สัตว์ก็เหมือนคน มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน

ด้านนางส้มจีน รุณริจิ อายุ 75 ปี กล่าวว่า ตนเป็นคนแถวนี้ มาช่วยงานที่วัดทุกวัน จะมาคอยดูแลเจ้าอาวาสและแขกเหรื่อที่มาที่วัด เนื่องจากที่วัดจะมีแขกและลูกศิษย์ลูกหามาบ่อย เนื่องจากเจ้าอาวาสดูดวงแม่น มีลูกศิษย์ลกหาจากทั่วสารทิศ มาให้เจ้าอาวาสดูดวงอยู่เป็นประจำ ซึ่งหลังจากทราบข่าวก็นึกโมโหคนร้าย โดยไม่รู้จะสรรหาถ้อยคำอะไรมาพูดคนร้ายไม่รู้ใจทำด้วยอะไร เหมือนเป็นมารศาสนาชัดๆ

ส่วนความคืบหน้าของคดี พ.ต.ท.สุพิศ แจ้งสว่าง หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ไชโย กล่าวว่า ตอนนี้ทั้งตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไชโย ตำรวจสืบสวนจังหวัดอ่างทอง และ ตร.สืบสวนภูธรภาค 1 ได้ระดมกำลังกันเร่งติดตามตัวคนร้าย

ซึ่งในเบื้องต้นได้ทำการเช็คสัญญาณโทรศัพท์ของเจ้าอาวาสที่คนร้ายขโมยไป โดยพบว่าสัญญาณโทรศัพท์ได้มีการใช้งานครั้งสุดท้ายที่บริเวณหน้าวัดโบสถ์ย่านซื่อ ใน ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.ก่อนที่จะสัญญาณจะปิดหายไป

อย่างไรก็ตามคาดว่าอีกไม่นานคงจะติดตามจับกุมคนร้ายได้เพราะก็พอจะทราบกลุ่มคนร้ายแล้วว่าเป็นชุดไหนและที่สำคัญทางผู้บังคับบัญชาสนใจคดีนี้มากและเร่งให้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้ผู้สื่อข่าวรายงาน ตอนนี้ได้ทราบข่าวจากแหล่งข่าวคนหนึ่งว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเฝ้าประกบคนที่คาดว่าจะเป็นคนร้าย โดยจากการสืบสวนจากหลักฐาน และคำให้การของเจ้าอาวาส ก็ทราบว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนสนิทกับเจ้าอาวาส ซึ่งเคยทำงานขับรถและดูแลเจ้าอาวาสอยู่เกือบ 10 ปี

เบื้องต้นทราบว่าคนสนิทคนดังกล่าวนั้นเป็นเซียนพระ และเปิดศูนย์เช่าพระเครื่องอยู่ภายใน อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งทางตำรวจได้ออกติดตามตั้งแต่เมื่อวาน โดยเฉพาะที่ศูนย์พระเครื่อง ซึ่งปกติดคนสนิทคนดังกล่าวจะไปเปิดร้านทุกวัน ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านจนกระทั่งวันนี้ ยังไม่เข้าไปที่ศูนย์เลย ซึ่งผิดปกติเป็นอย่างมาก และคนสนิทคนนี้จะอยู่กับเจ้าอาวาส เวลาเจ้าอาวาสจะไปดูดวงที่ไหนก็จะเป็นคนขับรถไปด้วยและก็จะรู้ว่าทางเจ้าอาวาสมีทรัพย์สินอะไรบ้าง โดยเฉพาะพระเครื่องราคาแพงเช่นหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ เป็นต้น

สำหรับเจ้าอาวาสนั้นวันนี้ตั้งแต่เช้าได้ออกไปจากวัด ไม่รู้ว่าไปที่ไหนหรือไปกับใครซึ่งทางตำรวจได้สันนิฐานว่าทางลูกศิษย์ที่เป็นหน่วยคอมมันโดในกองปราบมารับไป

เมื่อเวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดโบสถ์อัมพวา หมู่ที่ 1 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง เพื่อตรวจสอบว่าพระครูสถิตสิลโสภิต อายุ 43 ปี เจ้าอาวาสวัดโบสถ์อัมพวา ได้เดินทางกลับมายังที่วัดแล้วหรือไม่ โดยพบว่าเจ้าอาวาสได้เดินทางกลับมาแล้ว

และได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไชโย ได้นิมนต์ให้ไปให้ปากคำเกี่ยวกับคดีความเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้อาตมากำลังจะติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมที่บริเวณด้านหลังวัด และจะติดเหล็กดัดเพิ่มเติมภายในกุฎิ

สำหรับตอนนี้ที่เป็นห่วงมากก็คงจะเป็นพวกลูกสุนัขที่เพิ่งจะเกิดได้เพียงไม่กี่วัน ยังไม่ทันจะลืมตา ก็ต้องมากำพร้าแม่ไปเสียก่อน ก็ได้แต่ลูกศิษย์ลูกหาที่ช่วยกันไปซื้อนมมาป้อนลูกสุนัขพวกนี้ พร้อมทั้งช่วยกันดูแลไปก่อน

เนื่องจากลูกสุนัขเหล่านี้ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง หรือหากินได้ กินข้าวก็ยังไม่ได้ ก็อยากจะวอนผู้ใจบุญที่จะยื่นมือมาช่วย ก็จะไม่ขัดศรัทธา นึกซะว่าสงสารสุนัขก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกับคนเราเหมือนกัน

พระครูสถิตสิลโสภิต กล่าวต่อว่า สุนัขวัดที่จริงแล้วมีนับ 10 ตัว แต่ตอนนี้ที่เห็นเหลือเพียง 2-3 ตัวเท่านั้น ซึ่งเมื่อวานเจอตายอยู่ที่วัด 3 ตัว ทางชาวบ้านก็ได้นำไปฝังแล้ว ส่วนที่เหลือคาดว่าน่าจะกระเสือกกระสนตัวเอง จนไปตายอยู่ที่อื่น ซึ่งก็ไม่รู้ไปตายอยู่ที่ไหนกันบ้าง

ส่วนเรื่องคดีความนั้น อาตมาก็ได้ให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว โดยเฉพาะรูปร่างของคนร้าย กับน้ำเสียงของคนร้ายนั้น อาตมาจำได้ดี ซึ่งตอนนี้ก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามระบบของเขา

logoline