ซึ่งพบว่ามีทั้งหมดเกือบ 20,000 ชิ้น โดยในส่วนของทรัพย์สินที่เป็นวัตถุโบราณ จะส่งให้กรมศิลปากร ตรวจสอบความถูกต้อง ส่วนทรัพย์ที่เป็นไม้แปรรูป จะส่งมอบให้กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ /และเชื่อว่า ยังมีทรัพย์สินอีกจำนวนมากที่มีการซุกซ่อนไว้ในหลายจุดภายในประเทศไทย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่า มีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินไปเก็บไว้ในต่างประเทศ ซึ่งทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ในขณะนี้ทั้งหมด จะมีการตรวจสอบรายนิ้วมือแฝงและเก็บดีเอ็นเอ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่า ยังมีบุคคลใดอีกหรือไม่ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้
สำหรับการดำเนินคดี กับนายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา / นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา / นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา /นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และนายชากานต์ ภาคภูมิ ซึ่งเป็นผู้ต้องหากลุ่มล่าสุดที่ถูกจับกุมได้ในคดีนี้ พบว่า ทั้งหมดมีพฤติกรรมในการบังคับข่มขู่ ทวงหนี้ หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกรรโชกทรัพย์ เพื่อหาประโยชน์โดยมิชอบ และพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังในวันที่ 28 พฤศจิกายน ส่วนการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมนั้น ยังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่ม
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังยืนยันว่า ขวัญและกำลังใจของข้าราชการตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังดีอยู่ โดยจะมีการเรียกประชุมเพื่อชี้แจงและมอบนโยบายให้ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอีกครั้ง พร้อมระบุว่า ตำรวจนายใดที่ทำหน้าที่ด้วยความสุจริต ก็ไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวกับคดีที่เกิดขึ้น