svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สตช.เตรียมหลักฐาน มัด "พงศ์พัฒน์"

24 พฤศจิกายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ฝากขัง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมพวก ที่ศาลอาญาผลัดแรก ขณะที่ 2 ผู้ต้องหา พลเรือน ติดต่อเข้ามอบตัวแล้ว โฆษกตำรวจเผย คดีนี้มีทั้งหมดเกี่ยวข้อง 12 ราย เป็นตำรวจ 7 นาย

กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอศาลอนุมัติออกหมายจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, เป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, พร้อมพวกอีก 8 คน ในความผิดฐานต่างๆ ที่เป็นคดีอาญาเกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์ และบุกรุกป่านั้น

ต่อมา เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ได้มีคำสั่ง ลงวันที่ 23 พ.ย.2557 ให้นายตำรวจที่ถูกออกหมายจับในคดีนี้ ออกจากราชการไว้ก่อน ประกอบด้วย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พล.ต.ต.โกวิทย์ พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ดาบตำรวจสุรศักดิ์ จันทร์เงา ดาบตำรวจฉัตรินทร์ เหล่าทอง โดยผู้ต้องหาทั้งหมดถูกนำตัวไปสอบปากคำ และแยกไปคุมขังตามโรงพักต่างๆ

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าเช้าวันนี้ ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ไปฝากขังต่อศาลอาญา รัชดา ครั้งแรก และเมื่อหลักฐานพยานครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งหมดแล้ว พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องต่อไป โดยเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุด้วยว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้ มีทั้งหมด 12 ราย เป็นตำรวจ 7 นาย และพลเรือนอีก 5 ราย โดยในจำนวนนี้ รวมทั้ง พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีตผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม ที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งคดีของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ จึงสิ้นสุดลงไปด้วย

ส่วนผู้ต้องหาพลเรือนที่ยังหลบหนีการจับกุมตัวอยู่ 2 รายนั้น ขณะนี้ ได้ติดต่อเข้ามาแล้วว่า จะขอเข้ามอบตัวในวันนี้ ดังนั้น จึงเหลือผู้ต้องหาอีก 1 ราย เท่านั้น ที่ยังหลบหนีการจับกุมตัวอยู่ คือ นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช ทั้งนี้ เมื่อพนักงานสอบสวนดำเนินการทำสำนวนเสร็จสิ้น ก็จะเสนอเรื่องให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องในขั้นตอนต่อไป

สำหรับรายละเอียดของคดี โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงรายละเอียด แต่ยอมรับว่า ความผิดเรื่องการเรียกรับส่วยน้ำมันเถื่อนนั้น จากการสืบสวนอย่างละเอียดแล้ว พบว่า มีการรับส่วยจริง โดยรับเป็นรายเดือน เดือนละหลายล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่มีหลักฐานและพยานชัดเจน ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อแถลงข่าวอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้

logoline