ทั้งนี้ บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่พบว่าประตูหน้าบ้านไม่ได้ล็อค จึงแสดงตัวเพื่อขอเข้าตรวจค้น ปรากฏว่า ภายในบ้านชั้นล่างพบอุปกรณ์ในการทำทองเป็นจำนวนมาก อาทิ เครื่องรีดทอง เครื่องชั่ง ตราประทับชื่อร้านทอง เครื่องหลอม เครื่องยืดทอง เป็นต้น ส่วนชั้น 2 ไม่พบสิ่งผิดปกติ
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ประกอบด้วย นายบุญช่วย ชัยโนนตุ่น อายุ 50 ปี ผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว นางสมจิต ชัยโนนตุ่น อายุ 52 ปี ภรรยา นายอนุรักษ์ เสนาฤทธิ์ อายุ 41 ปี และนายพีรทัด ชัยโนนตุ่น อายุ 29 ปี ทั้งสองเป็นช่างที่ทำทองคำปลอม จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน พร้อมยึดอุปกรณ์ผลิตทองคำปลอมทั้งหมดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนนายบุญช่วย ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปี ตนเคยเปิดโรงงานผลิตทองปลอม พร้อมแจกจ่ายให้ลูกน้องไปจำนำที่ร้านทอง จนถึงปี 2555 ก็ถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับคดีเป็นซ่องโจรเพื่อฉ้อโกง พื้นที่ สน.ชนะสงคราม ตนและภรรยาจึงพักการผลิตทองไปเป็นเวลา 1 ปี เพราะกลัวถูกจับ กระทั่งกลับมาสู่วังวนเดิมอีกครั้ง โดยเริ่มเช่าบ้านหลังดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ในราคาเดือนละ 8 พันบาท สำหรับผลิตทองรูปพรรณปลอม ส่วนเครื่องมือที่ใช้ผลิตก็หาซื้อจากร้านขายเครื่องจักรย่านวงเวียนใหญ่
นายบุญช่วย กล่าวต่อว่า สำหรับกระบวนการผลิตนั้น เริ่มจากการรับซื้อทองคำจริง น้ำหนัก 2 สลึง ในราคา 2 พันบาท แล้วมารีดกับเงินผ่านอุปกรณ์ ก่อนจะร้อยกันเป็นสร้อยคอ ซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตออกมาเป็นทองรูปพรรณ น้ำหนัก 2 สลึงเท่าเดิม แต่เปอร์เซ็นต์ของทองจะลดลง เมื่อได้ของมาแล้วตนก็จะแจกจ่ายให้ลูกน้องอีกต่อหนึ่ง เพื่อนำทองที่ผลิตได้ไปฝากขาย หรือ จำนำกับร้านค้าทองโดยรอบปริมณฑลและต่างจังหวัด ในราคา 5,000-8,000 บาท โดยผลิตได้วันละ 2 เส้น
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มีความผิดตามพ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม ปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า ครอบครอง หรือ ผลิตเครื่องหมายการค้า ไม่ว่าจดทะเบียนใน หรือ นอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสน.ราษฎร์บูรณะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.