ไปไม่รอด วัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ กระชากสร้อย ขี่รถพุ่งชนรถเก๋งที่จอดติดไฟแดง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 29 ต.ค. 57 พ.ต.ท.กิตติ อุทัยวงค์ สวป.สภ.บ่อวิน กำลังอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอยู่ที่บริเวณสี่แยกหนองก้างปลา ถนนสายอีสเทิรน์ซีบอร์ด ม. 7 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่า มีคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยที่ตลาดบ่อวินและกำลังมุ่งหน้ามาทางถนนสายอีสเทิรน์ซีบอร์ด โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ หมายเลขทะเบียน 334 ชลบุรี ก่อเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคม จุดบ่อวินไล่ติดตามมาพร้อมด้วยผู้เสียหาย
เมื่อคนร้ายขี่รถจยย.มาถึงบริเวณสี่แยกหนองก้างปลา เป็นจังหวะสัญญาณไฟแดงทำให้รถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่วิ่งมาพุ่งชนท้ายรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน ขต-9425 ชลบุรี ซึ่งขับโดย น.ส. บุญเลี้ยง เก่งเดช อายุ 30 ปี ที่กำลังขับรถเพื่อจะกลับบ้านและรถได้ติดไฟแดงอยู่ ซึ่งรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ล้มลงได้รับบาดเจ็บตามร่างกายเล็กน้อย และได้ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่ติดตามมาและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงรวบตัวคนร้ายไว้ได้
จากการสอบสวนคนร้ายทราบชื่อว่า นายเอ(นามสมมุติ) อายุ 18 ปี อยู่ต.หนองปรือ อ.บางละมุง สารภาพว่า ได้ก่อเหตุกระชากสร้อยจริงโดยทำมาหลายครั้งแล้วโดยจะลงมือคนเดียวเมื่อพบเป้าหมายก็จะลงมือแล้วขี่รถจยย.หลบหนีไปได้ทุกครั้งหลังจากนั้นก็จะนำสร้อยคอที่ก่อเหตุไปขายแถวพัทยาเงินที่ได้มาก็จะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพและเที่ยวเตร่ โดยจะตะเวณก่อเหตุในพื้นที่ศรีราชาและบางละมุง
น.ส.สุมาลี ผดุงเวียง อายุ 20 ปี ผู้เสียหายให้การว่า ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำธุระที่บริเวณตลาดบ่อวิน จอดรถติดไฟแดงอยู่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดึงสร้อยคอทองคำที่สวมอยู่ที่คอ มองไปก็เห็นคนร้ายได้สร้อยติดมือไปแล้ว เมื่อตั้งสติได้ก็ได้ร้องตะโกนให้คนช่วย จังหวะเดียวกับที่มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมจุดบ่อวินอยู่ในบริเวณนั้นได้ยินเสียงเรียกให้ช่วย จึงขี่รถจยย.ช่วยกันไล่ติดตามตัวคนร้ายและแจ้งให้ทางตำรวจสภ.บ่อวินดักสกัดจับคนร้ายที่สี่แยกไฟแดงหนองก้างปลา
ทั้งนี้ ตำรวจพบสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทพร้อมด้วยสมเด็จพ่อ ร. 5 เลี่ยมทองของผู้เสียหายตกที่พื้นถนนหลังจากที่คนร้ายได้ขี่รถจยย.ชนท้ายรถยนต์เก๋งที่ติดไฟแดงอยู่ หลังจากนั้น ทางเจ้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ่อวินเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป