ยาเสพติดแอฟริกัน รุกไทย

หน่วยปราบปรามยาเสพติดทั่วโลก มีข้อมูลตรงกันว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้สามเหลี่ยมทองคำ คือกลุ่มแอฟริกัน ที่มีชาวไนจีเรียเป็นตัวการ เครือข่ายนี้เชื่อมโยงกันในหลายประเทศในจำนวนนั้นมีไทยรวมอยู่ด้วย โดยเฉพาะหญิงไทย พบว่าตกอยู่ในวังวนนี้มากที่สุด
เครือข่ายนี้มักใช้เส้นทางลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยเฉพาะโคเคน จากแถบทวีปเอเมริกาใต้ เช่น โบลิเวีย เปรู โคลัมเบีย ส่งต่อไปยัง บราซิล และกระจายไปยัง สิงคโปร์ ตุรกี กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เอธิโอเปีย ก่อนจะลำเลียงเข้าประเทศไทย ขณะที่ยาไอซ์ถูกลำเลียงจากประเทศมาลี ไนจีเรีย เบนิน โตโก และ กานา ก่อนจะส่งต่อไปยัง เอธิโอเปีย และ เข้าสู่ไทย การกวาดล้างอย่างหนักทำให้ เครือข่ายนี้หันไปว่าจ้างหญิงไทยและฟิลิปปินส์ให้ขนยาไอซ์และโคเคน จากจีน ผ่าน กวางโจว ฮ่องกง และเสิ้นเจิน เข้าไทย ซึ่งมักจะผ่านสายการบินนานาชาติในต่างจังหวัดมากว่าท่าอากาศยานสุถวรรณภูมิ เพื่อเลี่ยงการตรวจค้นจับกุม โดยจะใช้วิธีการกลืนลงท้อง ทวารหนัก และอวัยวะเพศ หรือซุกซ่อนไปกับสัมภาระ
เครือข่ายนี้จะใช้เส้นทางหลัก 3 เส้นทาง คือ เดินทางจากไทยไปอินเดีย หรือเนปาล รับเฮโรอีน เดินทางโดยเครื่องบินตรงเข้าจีน ที่เมืองกวางโจว เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หรือ ฮ่องกง เส้นทางต่อมาคือออกจากไทยไปอินเดีย เนปาล หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อรับเฮโรอีนแล้วบินกลับมาพักในไทยแล้วต่อไปจีน เส้นทางสุดท้ายเดินทางโดยรถประจำทางจาก กทม.ไป จ.สงขลา เข้าไปมาเลเซียเพื่อรับช่วงต่อจากผู้ลำเลียงชาวแอฟริกันก่อนจะเดินทางต่อไปยังจีนทางเครื่องบิน จากข้อมูลของหน่วยปราบปรามยาเสพติด พบว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติพยายามแทรกซึมในกลุ่มนักเตะตามสโมสรต่างๆหรืออ้างตัวว่าเป็นนักเตะเพื่อเลี่ยงการจับกุม สถิติการลักลอบนำเข้ายาเสพติดผ่านทางท่าอากาศยานในประเทศไทยในช่วง3 ปี พบว่า ในปีนี้ มีการจับกุมได้มากที่สุด จำนวน 21 คดี ผู้ต้องหา 24 คน เป็นยาไอซ์กว่า 37 กิโลกรัม โคเคน 11 กิโลกรัม ขณะที่ในท่าอากาศยานต่างประเทศพบว่า ในปี 2555จับกุมได้ 60 คดี ผู้ต้องหา 67 คน เป็นยาไอซ์ กว่า 24 กิโลกรัม โคเคน 96 กิโลกรัม //ในปี 2558 ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะเริ่มขึ้น การเดินทางในภูมิภาคนี้จะสะดวกขึ้นมีการหวั่นเกรงว่ายาเสพติดจากเครือข่ายข้ามชาตินี้จะสร้างปัญหาให้กับไทยและประเทศในกลุ่มสมาชิก