svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

โกงมโหฬาร 640 ล้าน ปลอมเช็คเถ้าแก่กว่าพันฉบับ

01 ตุลาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ขอนแก่น-โกงมโหฬาร ลูกน้องบริษัทรับเหมาใหญ่ในขอนแก่น ปลอมเช็คเถ้าแก่นานกว่า 4 ปี เช็คกว่าพันฉบับ ยักยอกเงินกว่า 640 ล้าน กว่าจะรู้ว่าเงินรั่วไหลเมื่อธนาคารแจ้งเช็คเด้ง เงินโอดีไม่พอจ่าย ตำรวจเตรียมสอบกระบวนการสั่งจ่ายเงินของธนาคาร คาดมีเจ้าหน้าที่ร่วมด้วยเป็นขบวนการ

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 30 ก.ย. 57 ที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภ. 4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส. 2 บก.สส.ภ.4 แถลงข่าวการจับกุมนายสุปรีชา เลขะวัฒนะ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/101 ม.23 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสาร ตั๋วเงิน โดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.เดชณรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมกราคม 2557 นายสุริพงษ์ ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองคอนกรีต ถูกลูกค้าทวงถามเงินที่ค้างชำระว่าทางห้างไม่ได้ชำระหนี้ลูกค้า ทำให้ไม่ส่งสินค้าให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองคอนกรีต ส่งผลให้งานที่รับเหมาและประมูลไว้ได้รับความเสียหายหลายร้อยล้านบาท
หลังจากนั้น ทางบริษัทได้ตรวจสอบเอกสารการเงินและระบบการเงินในบริษัทย้อนหลัง มีข้อมูลยืนยันว่านางปุณณดา พละศักดิ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/101 ม.23 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พนักงานของร้าน มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเงิน มีการปลอมแปลงเช็ค นายสุริพงษ์จึงเเจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น
จากนั้นจึงร่วมกันวางแผนสั่งจ่ายเช็คจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด เมื่อนางปุณณดานำเช็คที่ทางห้างออกให้เพื่อนำไปชำระหนี้ลูกค้า แต่นางปุณณดาได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับเงินในเช็ค โดยโอนเงินเข้าบัญชีนายสุปรีชา สามี จากการตรวจสอบเช็คที่มีการโอนเข้าเฉพาะธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด พบมีการโอนเข้าบัญชีแล้ว 24 ฉบับ เป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังพบว่า นางปุณณดาและนายสุปรีชา สองสามีภรรยายังได้ร่วมกับนายอติชาต นิลพัฒน์ พี่เขยของนายสุปรีชา ที่เปิดร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งใกล้บึงหนองโคตร โดยทั้ง 3 คน นำเงินไปหมุนเวียนในการเปิดกิจการร้านอาหาร ซึ่งจะตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติมว่าได้นำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ หรือนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นอีกหรือไม่จากนั้นชุดสืบสวนจึงนำหมายจับดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน โดยประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สส.2 บก.สส.ภ 4 ลงพื้นที่จับกุมนายสุปรีชาได้ที่บ้านพัก ขณะที่นางปุณณดาและนายอติชาต หลบหนี เช็คที่ทางห้างทำโอดี หมุนเวียนเงินกับทางธนาคารแห่งหนึ่งหลายครั้ง จนทำให้เงินที่ทำโอดีไว้หมดลง ทำให้เช็คเด้ง เพราะมีการปลอมรายชื่อของนายสุริพงษ์ลงในเช็คโดยได้ปลอมเช็ค ขีดฆ่า หรือเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของตั๋วเงิน แล้วนำไปขึ้นเงิน
จากการตรวจสอบพบว่านางปุณณดากับพวกเริ่มปลอมแปลงเช็คมาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน รวม 5-6 ธนาคารในเขตเทศบาลนครขอนแก่นรวมกว่า 600 ครั้ง พบเช็คที่มีการขีดฆ่ากว่า 1,000 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่สามารถตรวจสอบได้กว่า 640 ล้าน ซึ่งการทำธุรกรรมทางการเงินในลักษณะนี้ คาดว่าจะมีผู้ร่วมกระทำความผิด โดยทำเป็นขบวนการ และต้องตรวจสอบอีกหลายธนาคารที่เจ้าของห้างหุ้นส่วนได้ทำธุรกรรมทางการเงินด้วย จึงให้ตำรวจเร่งสืบสวนขยายผล เบื้องต้นทางผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ

logoline