นายกฯ สั่งเร่งจับคนร้ายฆ่า 2 นักท่องเที่ยว

ทำเนียบรัฐบาล-- 16 ก.ย. 2557--เวลา 12.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.ถึงความคืบหน้าการสังหารโหดนักท่องเที่ยว 2 คนที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานีว่า "เรื่องนี้คนไทยรับไม่ได้ แต่สิ่งที่สื่อต้องช่วยกันคือการสร้างความเข้าใจว่าบางทีในบางพื้นที่ชาวต่างชาติเขาไม่รู้ เพราะในบ้านเขาจะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ เขาจึงคิดว่าเขาปลอดภัยแต่บ้านเรายัมีปัญหาอยู่ มีคนหลายระดับจึงต้องระมัดระวัง ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องเตือน และเรื่องนี้ต้องสอบสวนกันอีกครั้งเพราะเรื่องนี้คนในประเทศรับไม่ได้ คนในพื้นที่ก็ทราบว่ามีการแต่งชุดดำเพื่อต่อต้าน วันนี้ตนสั่งทหาร ตำรวจลงไปไล่ล่าทั้งหมด"
เมื่อถามว่าดูเหมือนปัญหาทั้งหมดจะเกิดขึ้นจากฝีมือแรงงานต่างด้าว ตรงนี้จะแก้ปัญหากันอย่างไร นายกฯ กล่าวยอมรับว่า ใช่ แต่เราจะแก้ปัญหากันอย่างไร ซึ่งวันนี้มันมีข้อจำกัดต่างๆ เราจึงจำเป็นต้องขึ้นทะเบียบคนต่างด้าวให้ครบ ต้องมาไล่ดูบริษัทต่างๆว่านำคนต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนมาทำงานหรือไม่ ถ้าไม่เอาคนที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องมาทำงานก็ต้องลงโทษ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาอยู่เช่นนี้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นยาม รปภ. แต่ไม่ยอมขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องก็มักเกิดปัญหาตามมา
"ประวิตร" เผย จับผู้ต้องสงสัยต่างด้าว 3 รายฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวเมืองผู้ดีที่เกาะเต่าได้แล้ว 
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 ก.ย. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการจับคนร้ายที่สังหารโหด 2หนุ่มสาวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย เป็นแรงงานต่างด้าว ซึ่งต้องดำเนินการสอบสวนและตรวจสอบดีเอ็นเอว่าเป็นผู้สังหารจริงหรือไม่ และระหว่างนี้ก็ได้ส่งศพผู้เสียชีวิตกลับมาไว้ที่กทม. อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบว่ามีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุครั้งนี้อีกหรือไม่ ขอให้ไม่ต้องห่วง โดยตนได้สั่งการให้พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาการผบ.ตร. ช่วยดูแลและเร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดโดยเร็ว
สำหรับศพของนักท่องเที่ยวทั้งสองคน เจ้าหน้าที่นำส่งมายังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อทำการพิสูจน์อย่างละเอียด โดยมีพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีติดตามมาด้วย เพื่อรอรับทราบผลพิสูจน์ หลังจากนั้นทางสถานทูตจะดำเนินการจัดส่งศพกลับไปยังประเทศอังกฤษพล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา ระบุ เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการตรวจสอบสภาพศพในเบื้องต้นก่อน หากยังสมบูรณ์ จะตรวจพิสูจน์ได้ทันที และคาดว่าจะทราบผลในเย็นวันนี้   แต่หากศพมีสภาพไม่สมบูรณ์ จะระดมทีมพิเศษ เข้าตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ บอกว่าจากกล้องวงจรปิด พบภาพชายต้องสงสัย 1 ราย สูงประมาณ 160-170 ซม.นุ่งกางเกงขาสั้นไม่สวมเสื้อเดินวนเวียนไปมาผิดสังเกตุในช่วงเวลา และเส้นทางเดียวกับที่ 2 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกทำร้ายจนเสียชีวิต บนเกาะเต่า ล่าสุดได้ควบคุมตัวคนงานชาวพม่าไปสอบปากคำ 6 รายพร้อมเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำชับให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว โดยรองผบ.ตร.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง บอกว่า ขณะนี้ได้ส่งศพ2นักท่องเที่ยวพร้อมหลักฐานที่พบไปตรวจเทียบเคียงดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยแล้ว มั่นใจจะจับกุมตัวคนร้ายได้ในไม่ช้าหนังสือพิมพ์เทเลกราฟฉบับออนไลน์ รายงานว่า ตำรวจไทยได้ตัดประเด็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นนักท่องเที่ยวสะพายเป้ หรือ แบ็คแพ็คเกอร์ ชาวอังกฤษออกไป และพุ่งเป้าไปที่แรงงานพม่า ในการสืบสวนคดีที่ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ วัย 23 ปี และเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่ถูกสังหารอย่างทารุณ ที่บริเวณหาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี รายงานระบุว่า ฮันนาห์ จบมหาวิทยาลัยจากเกรท ยาร์เม้าธ์ เมืองนอร์ธ์ฟอล์ค ส่วน เดวิด มาจากเมืองเจอร์ซีย์ ทั้งสองคนถูกทำร้ายด้วยจอบ หลังร่วมงานปาร์ตี้ริมทะเลช่วงหัวค่ำ  ฮันนาห์ ถูกระบุว่า เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนผู้หญิง 3 คน และอยู่บนเกาะเต่าได้เพียง 3 วัน เธอพบกับเดวิด ที่เดินทางมากับเพื่อนผู้ชายอีก 2 คน หลายชั่วโมงก่อนถูกสังหาร โทนี่ วิทเธอริดจ์ พ่อของฮันนาห์ บอกว่า "ได้รับข่าวร้ายที่สุดเรื่องการเสียชีวิตของลูกสาวของพวกเราในเช้าวันนี้ พวกเรากำลังสิ้นหวัง"รายงานระบุด้วยว่า ศพของทั้งสองคน อยู่ในสภาพกึ่งเปลือยและเลือดนองพื้นทราย และอยู่ไม่ไกลจากบังกะโลว์ริมชายหาด ที่กลุ่มเพื่อนของทั้งคู่พักอยู่ และพบจอบที่เชื่อว่าคนร้ายใช้เป็นอาวุธตกอยู่ใกล้เคียง เชื่อว่า ทั้งคู่ไปร่วมงานปาร์ตี้ ที่มีนักท่องเที่ยวสะพายเป้ และนักท่องเที่ยวอื่น ๆ ราว 50 คน ไปชุมนุมกัน และถูกพบครั้งสุดท้ายตอนออกจากบาร์ไปด้วยกันรายงานสื่อในไทย ระบุว่า ศพถูกพบเมื่อเวลา 06.20 น. ตามเวลาในไทย โดยกลุ่มแรงงานพม่าที่เข้าไปทำความสะอาดชายหาดหลังงานปาร์ตี้ ตำรวจกำลังสืบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการฆาตกรรม และหนึ่งในทฤษฎีที่เป็นไปได้คือเรื่องทางเพศ ศพของทั้งคู่ถูกส่งไปชันสูตรก่อนส่งกลับไปให้ครอบครัว ชาวต่างชาติคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยมานาน แต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อโดยอ้างว่ากำลังช่วยตำรวจสืบสวน บอกว่า การหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยว ได้เปลี่ยนเกาะสวรรค์แห่งนี้ ให้กลายเป็นดินแดนที่ไร้ขื่อแปมากขึ้นเรื่อย ๆ มีการใช้สุนัขตัวโต ๆ อารักขาทางเข้าตามโรงแรมราคาถูกและร้านค้า เขาบอกด้วยว่า เมื่อก่อนที่นี่ดีมาก แต่ตอนนี้มีแต่ปัญหา การแพร่ระบาดของยาเสพติดเป็นหนึ่งในความเลวร้ายที่สุด มีทั้ง ยาอี, โคเคน และกัญชา เมื่อ 10 ปีก่อน ยังไม่มีแบบนี้ ไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น ด้านเดอะ การ์เดียน รายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจสร้างความเสียหายให้กับการท่องเที่ยวไทย ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเมืองและการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่แล้ว ด้านโฆษกของกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ ระบุว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากสถานทูตในอังกฤษ เดินทางไปยังเกาะเต่าแล้ว และบอกด้วยว่า ทราบเรื่องการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คน ที่เกาะเต่า เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา และทางกงสุลในประเทศไทย ได้รีบหาข้อมูลจากทางการในท้องถิ่้น และพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อนและครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายในช่วงเวลาอันน่าเศร้านี้ ด้านแท็บลอยด์ เดอะ มิร์เรอร์ ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่แสดงให้เห็นเดวิดจูงมือฮันนาห์ในช่วงเวลาไม่นานก่อนถูกสังหาร ซึ่งตรงกับที่ตำรวจ บอกว่า ทั้งคู่ออกจากงานปาร์ตี้ในเช้าของวันที่ถูกสังหาร รายงานยังอ้างการบอกเล่าของเพื่อน ๆ ของฮันนาห์ว่า เธอเป็นคนร่าเริง ฉลาดและสวย เธอทำงานกับ อาร์ชานท์ มีเดีย กรุ๊ป ที่ช่วยจัดงานแสดงในงานแต่งงาน และผลิตหนังสือพิมพ์ อีสเทิร์น เดลี่ เพรสส์ มิร์เรอร์ ยังมีภาพของชายที่ต้องสงสัย เป็นชาวเอเชีย สวมกางเกงขาสั้น เดินอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดการฆาตกรรม ซึ่งตำรวจเพ่งเล็งไปที่แรงงานต่างด้าว เนื่องจากมีพยานและหลักฐานแวดล้อม รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และมีการตรวจค้นโรงแรม บาร์ ธุรกิจต่าง ๆ  รวมถึงที่พักของแรงงานต่างด้าวด้วย มีรายงานว่า ในแต่ละปี ประเทศไทยเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษและไอริช มากกว่า 850,000 คน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศอังกฤษ ระบุว่า มีชาวอังกฤษ 11 คน ถูกฆาตกรรมในไทย นับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2552 เป็นต้นมา และได้เตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังตกเป็นเหยื่อการทำร้ายของแก๊งที่ประสงค์ร้าย โดยปราศจากการยั่วยุ ที่เกาะพะงัน แต่ไม่ได้เจาะจงเกาะเต่า ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และการท่องเที่ยวไทย ยืนยันว่า เกาะเต่าและชายหาดอื่นในไทย ยังคงปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว