svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

บุกทลายแก๊งมาเฟีย เรียกเก็บค่าคุ้มครองต่างด้าว

02 กันยายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พัทยา 2 ก.ย.57 - ทหาร- ตร ร่วมฝ่ายปกครองสนธิกำลัง บุกทลายขบวนการแก๊งมาเฟีย เรียกเก็บค่าคุ้มครองต่างด้าว

กลางดึกคืนวันที่ 2 ก.ย. 57 นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง พ.ต.นพพร สิงหสุต นายทหารธุรการและกำลังพล มทบ.14 ชลบุรี สนธิเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองพร้อมกับตำรวจ บุกเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 413/55 ม.9 หมู่บ้านศุภมิตร วิลล่า ซอยบงกช ต.หนองปรือ อ. บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่าเป็นแก๊งขบวนการเรียกเก็บค่าคุ้มครองกับคนต่างด้าว และยังลักลอบนำบุคคลต่างด้าวเข้าประเทศไทย เพื่อมาทำงานอีกทั้งยังรับจัดทำพาสปอร์ตให้กับบุคคลต่างด้าวโดยผิดกฎหมายจากการตรวจค้นในบ้านภายในบ้านดังกล่าว พบนายสุขุม แก้วดอนดู่ อายุ 30 ปี อยู่ภายในบ้าน จึงได้ทำการควบคุมตัวไว้ ตรวจค้นในบ้านเจ้าหน้าที่พบเอกสารสำเนาพาสปอร์ตของชาวต่างชาติ อาทิ ชาวเวียดนาม พม่า และชาติเพื่อนบ้านจำนวนมาก สมุดบัญชีธนาคารต่างๆรวมยอดเงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท อาวุธปืน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีรายชื่อและรายรับรายจ่าย บุหรี่ต่างประเทศจำนวน 70 แค็ตต้อน จึงได้ยึดไว้ทำการตรวจสอบสอบสวนนายสุขุม แก้วดอนดู่ สารภาพว่า ทำงานเป็นคนขับรถตู้ส่งนักท่องเที่ยว และบางทีก็เดินทางไปรับชาวต่างด้าวตามจังหวัดต่างๆ ให้กับนางวิกันดา หรือเจ้เจี๊ยบ แซ่ลิ้ม ซึ่งเป็นเจ้าของ และยังเปิดบริษัททัวร์รัสเซียด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆนั้น ทางนางวิกันดา หรือเจ้เจี๊ยบ จะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ภายหลังจากการตรวจค้นแล้วเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายสุขุม ไปตรวจสอบที่บริษัททัวร์รัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยบัวขาว โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้วางกำลังดักซุ่มบริเวณหน้าบ้านเพื่อดูสถานการอย่างต่อเนื่องเบื้องต้นกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริษัททัวร์ ไบร-เอ็นจอย พบว่าได้ปิดทำการไปแล้วและไม่มีใครอยู่ดูแล นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจสอบที่โรงแรมไบร-เอ็นจอย ซึ่งเป็นอาคารพานิชย์สูง 4 ชั้น 5 คูหา ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือของนางวิกันดา จากการตรวจสอบและพบว่ายังไม่มีเอกสารใบอนุญาตอย่างถูกต้องต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่าได้ควบคุมตัวนายแก้ว สัญชาติเวียดนาม ขณะเดินทางเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าวสอบสวนเบื้องต้นให้การปฏิเสธว่า ไม่รู้เรื่องและไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด จนนางวิกันดา หรือ เจ้เจี๊ยบ ได้โทรศัพท์มาหานายแก้ว สอบถามถึงเรื่องเจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านว่าไปหมดหรือยัง จนในที่สุดนายแก้ว ต้องรับสารภาพว่าทำงานอยู่กับ เจ้เจี๊ยบ มีหน้าที่คอยดูแลชาวเวียดนามให้กับ เจ้เจี๊ยบ กว่า 100 คน ที่ เจ้เจี๊ยบ นำเข้ามาเพื่อทำงานในเมืองพัทยาตามสถานที่ต่างๆทั้งเป็นเด็กเดินขายดอกไม้ เป็นเด็กรับรถตามสถานที่จอดรถต่างๆในพื้นที่เมืองพัทยารวมถึงสถานบันเทิงบางแห่ง และยังช่วยดำเนินการจักทำพาสปอร์ตให้กับกลุ่มชาวเวียดนามที่เดินทางเข้ามา และยังจัดหาที่พักให้กับชาวเวียดนามด้วย โดยทางเจ้เจี๊ยบ นั้นจะเรียกเก็บเงินกับกลุ่มชาวเวียดนามเป็นรายเดือน เดือนละ 2,000 บาทต่อคน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูและเจ้าหน้าที่ราชการในพื้นที่หากถูกจับกุม ซึ่งแต่ละคนจะมีนามบัตรสีม่วงพกติดตัวไว้ เพื่อเป็นการแสดงว่าอยู่ในเครือกับ เจ้เจี๊ยบภายหลังจากการสอบสวนแล้วจึงได้นำตัวนายแก้ว ไปขยายผลตรวจค้นที่ อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 570/257 ม.5 ต.นาเกลือ อ. บางละมุง จ. ชลบุรี เป็นอพาร์ทเม้นท์ สูง 3ชั้น จากการเข้าตรวจค้นพบว่าที่บริเวณด้านล่างมีกล่องโฟม แช่ดอกกุหลาบ ที่จัดเตรียมไว้ขายและมีป้ายชื่อของนายตำรวจนายหนึ่งแปะติดข้างฝาอย่างชัดเจน และยังคงมีตู้แดงจุดตรวจของ สภ . เมืองพัทยาอีกด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ทำการเคาะประตูเรียกแต่ละห้องเพื่อตรวจค้น จากการตรวจค้นพบว่าทั้งหมดที่พักอาศัยอยู่นั้นเป็นชาวเวียดนาม และชาวไทยใหญ่ จำนวนมากเบื้องต้นได้ตรวจสอบหลักฐานพาสปอร์ตมีอย่างถูกต้องและไม่พบการกระทำผิดอย่างใดจึงได้ทำการสอบถามประวัติก่อนปล่อยตัวไปหลังจากที่บุกเข้าทำการตรวจสอบในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุม นางวิกันดา หรือเจ้เจี๊ยบ ตัวการรายใหญ่ได้ เนื่องจากมีสายข่าวคาดเป็นคนมีสีรู้ความเคลื่อนไหวแจ้งข่าวให้ทราบ จึงทำให้นางวิกันดา หรือเจ้เจี๊ยบ ไหวตัวหลบหนีไป อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นได้ควบคุมตัวนายแก้ว สัญชาติเวียดนาม และนายสุขุม ไปสอบสวนขยายผลถึงกลุ่มผู้ร่วมเครือข่าย และติดตามจับกุมเจ้เจี๊ยบ เจ้าแม่ส่วยต่างด้าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

logoline