svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

โจรอ้วนผอม....ควง M16 จี้รถขนเงิน

29 สิงหาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สองโจรอ้วนผอมสวมไอ้โม่งและหมวกกันน็อค ใส่เสื้อโค๊ตยาวซ่อนปืนเอ็ม 16 บุกเข้าจี้พนักงานรถขนเงิน จับใส่กุญแจมือ ปลดปืนพก แต่เปิดประตูตู้เก็บเงินในรถไม่ได้และสายตรวจผ่านมาพอดี สุดท้ายคว้าสร้อยคอหนัก 2 บาทและปืนพกพนักงานรถขนเงินหลบหนี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2557 ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ไตรราช พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง รับแจ้งมีเหตุ 2คนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 จี้ 3 พนักงานขับรถตู้ขนเงินบริษัท G4S จับใส่กุญแจมือ ปืนจี้เจ้าของร้านอาหารและพนักงานขนเงินให้มอบกับพื้น และบังคับให้พนักงานไขกุญแจท้ายรถเพื่อปล้นเงินที่เก็บไว้ในรถตู้ แต่ไม่สามารถเปิดตู้เก็บเงินได้ เพราะต้องใช้รหัสถึงจะเปิดออก คนร้ายจึงหันมาปลดสร้อยคอพนักงานและอาวุธปืนพกสั้น ขี่รถจยย.หลบหนีไปทาง อ.สัตหีบ เหตุเกิดที่ร้านข้าวแกงสุ 1000 ริมถนนสุขุมวิท หมู่ 3 ต. ต.พลา จึงรายงานพล.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ ซุ่นทรัพย์ รรท. ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.เทอดเกียรติ วิริยสถิตย์กุล พ.ต.อ.สุรพณ มงคลยุทธ ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ ทับแสง สว.สส.สภ.บ้านฉางพร้อมกำลังเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ทะเบียน ฒษ 9651 กทม. บริษัท G4S สาขามาบตาพุด จอดอยู่บริเวณหน้าร้าน"ข้าวแกงสุ1000" พบนายอรรคพล พวงศรี อายุ 27 ปี นายวีรพงษ์ นิลยาน อายุ 23 ปี และนายสุรเสน ศรีทน พนักงานขนเงินบริษัท G4S ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มานั่งรับประทานอาหาร ร้านนี้เป็นประจำ ขณะนั่งรับประทานอาหารได้มีคนร้าย 2 คนรูปร่างอ้วน 1 คนและผอม 1 คนใส่เสื้อโค๊ตยาวคลุมหัวเข่าสีเขียวขี้ม้า สวมไหมพรหมคลุมปิดบังใบหน้า สวมหมวกกันน็อคคลุมอีกชั้นหนึ่ง ถือปืนยาวซุกซ่อนอยู่ในเสื้อโค๊ต ทั้ง 2 คนเดินเข้ามาที่โต๊ะขณะนั่งกินข้าวกันอยู่ ใช้ปืนจี้จับใส่กุญแจมือทั้ง 3 คน พร้อมบังคับให้นำกุญแจไปเปิดประตูท้ายรถและบังคับให้เปิดตู้เก็บเงิน แต่ไม่สามารถเปิดออกได้ต้องใช้รหัสจากสำนักงานใหญ่ จึงจะเปิดได้ คนร้ายจึงหันมาปลดสร้อยคอหนัก 2 บาท 1 เส้นพร้อมยึดปืนพกสั้นขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก แล้วขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นสกู้ปปี้ไอ สีดำแดง หลบหนีไปทาง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
จากนั้นพนักงานขับรถขนเงินได้แจ้งพนักงานสอบสวนว่า ได้รับคำสั่งให้นำรถขนเงินกลับบริษัทก่อน แล้วจะเดินทางมาให้สอบสวนปากคำภายหลัง เบื้องต้นทราบว่ามีเงินสด 40 ล้านบาทบรรทุกมาในรถขนเงินคันดังกล่าว
นางมุกดา ปิ่นแก้ว อายุ 46 ปี เจ้าของร้านอาหาร ให้การว่า ขณะกำลังยืนปรุงอาหารอยู่มีคนร้าย 2 คน สวมเสื้อโค๊ตยาวคลุมหัวเข่าสีเขียวขี้ม้า หนึ่งในคนร้ายสวมกางเกงขายาวสีเทาแถบเหลือง ลักษณะอ้วน 1 คน ผอม 1 คน สวมหมวกไหมพรม และใส่หมวกกันน็อคทับอีกชั้นหนึ่ง ถืออาวุธปืนสงครามคล้ายเอ็ม 16 ปลายกระบอกปืนโผล่ออกมานอกเสื้อเดินเข้ามาจี้พนักงานขับรถขนเงินที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านรวม 3 คน 1 ในคนร้ายได้ตระโกนว่า "ตามหามานานแล้ว"
จากนั้นใช้อาวุธปืนยาวจี้ทั้งสามคน ปลดกุญแจมือของพนักงานจับใส่กุญแจข้อมือทั้งสามคน แล้วปลดปืนพกสั้นของนายอรรคพล เจ้าหน้าที่รถขนเงิน จากนั้นคนร้ายได้หันปากกระบอกปืนมาที่นางมุกดา บังคับให้หมอบลงกับพื้น แล้วคนร้ายได้บังคับ นายอรรคพล พนักงานรถขนเงิน เดินไปเปิดประตูรถตู้ขนเงิน แต่ไม่สามารถเปิดประตูชั้นในได้ ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขับรถยนต์ผ่านมาช้าๆผ่านหน้าร้านไปได้เล็กน้อย คนร้ายได้กระชากสร้อยคอ นายอรรคพล ติดมือไปด้วยก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
พล.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ ซุ่นทรัพย์ รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง กล่าวว่า คนร้ายคงทราบว่าพนักงานรถขนเงินมานั่งกินข้าวที่ร้านนี้เป็นประจำ แต่คงไม่รู้ระบบการเปิดตู้เก็บเงินในรถตู้ อาศัยใจกล้าเห็นรถขนเงินจอดอยู่ คิดว่าเปิดได้ง่าย เมื่อเปิดตู้เก็บเงินไม่ได้เปลี่ยนใจกระชากสร้อยไป 1 เส้นพร้อมอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 มม.ของพนักงานขนเงินไป ขณะนี้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณริมถนนตลอดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี ต่อไปจะต้องพูดคุยกับรถขนเงินว่าจะไปไหนขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวล่าสุดทราบว่า คนร้าย 2 อ้วน ลักษณะอ้วนผอม ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกุ๊ปปี้ไอ สีดำแดง เป็นพาหนะในการก่อเหตุ มีลักษณะตรงกันกับคนร้ายที่ลงมือปล้นเงินพนักงานธนาคารออมสินขณะมาเก็บเงินที่โรงรับจำนำ ขณะพนักงานนำเงินกลับมาขึ้นรถถูกคนร้ายอ้วนผอมใช้อาวุธปืนพกจี้ แต่พนักงานธนาคารกลับส่งกระเป๋าเงินของตนเองให้คนร้ายไป ซึ่งมีเงินอยู่ 1,500 บาท เหตุเกิดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมายังจับคนร้ายไม่ได้ คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายชุดเดียวกัน

logoline