3 โจ๋ เหิมจัด ซิ่งปิกอัพล่าเหยื่อสาวกลางเมือง ใช้วิธีขับรถชนแล้วฉุด แต่ 2 รายแรกไม่สำเร็จ รายที่สามไล่ชน จยย.คู่รักหนุ่มสาว ก่อนลงมาซ้อมฝ่ายชายแล้วฉุดแฟนสาวขึ้นรถจะพาไปข่มขืน แต่รถเสียหลักตกข้างทางเหยื่อหนีรอด ตร.ตามรวบทันควัน อ้างเมาคึกคะนอง
คนร้ายเป็นชาย 3 คน ร่วมกันก่อเหตุอุกอาจขับรถยนต์กระบะไล่ชนหญิงสาวแล้วใช้กำลังบังคับขึ้นรถหวังจะพาไปกระทำชำเรา แต่พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์แจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจให้มาช่วยเหลือและติดตามจับกุมคนร้ายได้หมดทั้งแก๊งประกอบด้วย นายณัฐพล แก้วแดง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246/4 ถนนสีหราชเดโชชัย อ.เมือง จ.พิษณุโลก และเยาวชนอายุ 17 และ 18 ปี อีก 2 คน
เหตุการณ์อุกอาจครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณตีสามของวันที่ 28 กรกฎาคม ร.ต.ท.อภิชาติ พุ่มทอง รอง สวป.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มคนร้ายขับรถกระบะไล่ชนผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาวแล้วพยายามฉุดขึ้นรถเพื่อพาไปกระทำชำเรา โดยจุดแรกได้รับแจ้งว่าคนร้ายจำนวน 3 คนขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีฟ้า ทะเบียน บบ-2800 เพชรบุรี ไล่ชนหญิงสาว บนถนนสิงหวัฒน์ บริเวณหน้าโรงแรมวิจิตรา ต.ในเมือง อ.เมือง เมื่อไปตรวจสอบกลับได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่ามีคนร้ายคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกันขับรถชนหญิงสาว 2 คน ที่หน้าร้านอาหารไทยฟอร์ยู ทางเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ก่อนลงมาทำร้ายร่างกายและพยายามใช้กำลังฉุดขึ้นรถยนต์ แต่ไม่สำเร็จคนร้ายจึงขับรถหลบหนีไป
เวลาห่างกันไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากนายเมธี ศรีหร่าย อายุ 21 ปี ว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์มากับแฟนสาว เมื่อมาถึงหน้าร้านอาหารครัวเมืองน่าน ถนนไชยานุภาพ มีคนร้ายขับรถกระบะมาเฉี่ยวชนจนรถจักรยานยนต์ของตนเสียหลักล้มลง ก่อนที่คนร้ายซึ่งเป็นชายวัยรุ่น 3 คน จะลงมาจากรถแล้วพากันกรูเข้ามาทำร้ายคนแล้วฉุดแฟนสาวของตนขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไปทางถนนสีหราชเดโชชัย เจ้าหน้าที่จึงวิทยุให้ชุดสายตรวจติดตามสกัดจับ จนมาถึงซอยทางเข้าวัดหลวงพ่อโต หมู่ 7 ต.วัดจันทร์ พบรถยนต์ของคนร้ายพุ่งตกลงไปอยู่ข้างทาง หญิงสาวผู้เสียหายจึงฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีออกมาแล้วไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
จากการตรวจสอบภายในรถยนต์พบท่อนไม้จำนวน 2 ท่อน เชือกไนลอนอีก 1 เส้น นอกจากนี้ยังพบกางเกงชั้นในของผู้เสียหายตกอยู่ในรถ ส่วนคนร้ายทั้ง 3 คน ตกใจวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังปิดล้อมที่เกิดเหตุจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด จากนั้นควบคุมตัวไปตรวจค้นที่ห้องพักของนายณัฐพล พบอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนขนาด 20 จำนวน 6 นัด ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปสอบสวนที่ สภ.เมืองพิษณุโลก
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า หลังจากนั่งดื่มสุรากันหมดไป 3 ขวด นายณัฐพลได้ขับรถยนต์ออกมาส่งรุ่นน้องที่บ้านพัก จนกระทั่งมาถึงหน้าโรงแรมวิจิตรา พบผู้เสียหายชายหญิง ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน ด้วยความเมาและคึกคะนองจึงขับรถชนท้ายก่อนลงไปทำร้ายร่างกายฝ่ายชายและพยายามฉุดผู้หญิงขึ้นรถ แต่มีคนผ่านมาจึงได้รีบขึ้นรถยนต์หลบหนี จนกระทั่งมาพบเหยื่อรายที่สองเป็นหญิงสองคน ที่บริเวณหน้าร้านอาหารไทยฟอร์ยู จึงก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง ด้วยการทำร้ายและพยายามลวนลาม แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งมาถึงรายสุดท้ายได้ขับรถชนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายและลงไปทำร้ายร่างกายฝ่ายชาย ก่อนฉุดแฟนสาวขึ้นรถ และพยายามข่มขืน แต่รถเกิดเสียหลักตกลงข้างทาง ผู้เสียหายจึงวิ่งหลบหนีไปได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง และทำร้ายร่างกาย ส่วนคดีกระทำชำเรานั้น ต้องรอแพทย์ลงความเห็นอีกครั้ง
พล.ต.ต.ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมกันแก้ไขปัญหาวัยรุ่นก่อเหตุวุ่นวาย โดยการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น ใต้สะพาน ริมน้ำ สถานที่เสี่ยงต่างๆ ที่คาดว่าเด็กจะเสี่ยงต่อการกระทำความผิด เช่น พลอดรัก เสพยาเสพติด หรือรวมตัวเป็นแก๊งรถซิ่ง หากพบก็จะนำตัวไปอบรมและทำประวัติที่บ้านมิตรไมตรี พร้อมเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติการณ์ของเด็ก เพื่อเป็นการตักเตือน หากยังประพฤติตัวผิดซ้ำอีกก็จะถูกทำทัณฑ์บน