ฝนตกถนนลื่น เกิดอุบัติเหตุ 2 รายซ้อนตาย 4 ศพ

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนอยู่กลางถนน 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางบุญรอด ยอดสิงห์ อายุ 47 ปี นางระเบียบ สกุลณา อายุ 35 ปี เป็นชาวสวนส้ม ใกล้กันพบรถจักรยายนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีน้ำเงิน ทะเบียน ขคร-623 พระนครศรีอยุธยา ของผู้ตายล้มคว่ำอยู่ ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบรถยนต์กระบะยี้ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บค-5924 มุกดาหาร คันก่อเหตุจอดอยู่ สภาพด้านหน้าขวาพังยับเยิน โดยมีนายศราวุธ สุวรรณคำ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/8 ม.8 ต.นาแก้ว อ.นาแก้ว จ.สกลนคร ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะคันดังกล่าวยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 
โดยนายศราวุธ สุวรรณคำ กล่าวว่า ตนเองขับรถกับที่พักย่านคลอง 11 และมีฝนตกพรำๆขณะขับรถมาด้วยความเร็วเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นผู้เสียชีวิต ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากสวนมาขึ้นถนน เพื่อมุ่งหน้าไปทางคลอง 11 เช่นกันเป็นจังหวะเดียวที่ตนเองขับรถมาถึง และเบรกไม่อยู่ เนื่องจากถนนลื่นทำให้พุ่งชนอย่างแรงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได่ควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนรายที่ 2 ขณะที่ พ.ต.ต.เทอด หาญณรงค์ กำลังสอบปากคำนายศราวุธ สุวรรณคำ อยู่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีอุบัติรถชนกันบนถนนสายบางขัน-หนองเสือ ระหว่างคลอง12 และ13 ม.7 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อออนด้าทะเบียน ปบต-872 กรุงเทพ พริกคว่ำสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายมนตรี กุลเตี้ย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.8 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และนายเผด็จ สร้อยสวัสดิ์ อายุ 30 ปี อยู่เลขที่ 11/2 ม.3 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์ อีซูซุ คามิโอสีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตกแต่งเป็นรถซิ่ง จอดอยู่ในสภาพกระจกหน้าแตกไฟด้านซ้ายและบังโคลนซ้ายพังเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนขับรถยนต์อีซูซุ คามิโอ คันก่อเหตุ ทราบชื่อนายปกรณ์ ใยมณี อายุ 15 ปี ไว้สอบปากคำ โดยในเบื้องต้นนายปกรณ์ ใยมณี บอกว่าตนขับรถมากับเพื่อน เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านคลอง13 เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับสวนทางมาและวิ่งข้ามเลนมาชนรถตนเองจนเสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป