รวบหนุ่ม ลำปาง ฆ่าสาวใหญ่-ข่มขืนแม่ม่าย คาหอพัก

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 24 ก.ค.ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ แถลงข่าวการจับกุมนายวิชชุพันธ์ รัตนรังสรรค์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่1/25 ถนนมนตรี ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง ในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเรา คาหอพักในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมนำไปทำแผนประกอบคำสารภาพ ที่หอพัก พี.เจ.อพาร์ทเม้นท์ จุดเกิดเหตุ
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม เวลาประมาณ 17.30 น. ที่ผ่านมา ได้มีเหตุฆาตกรรมสาวใหญ่ อายุ 50 ปี เกิดเหตุที่หอพักแห่งหนึ่ง ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และยังได้ทำร้ายและข่มขืน สาวอีกคนอายุ 30  ปี ญาติของผู้ตายภายในห้องเดียวกัน โดยคนร้ายได้หลบหนีไป จากการสืบสวนสอบสวน รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในหอพักที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบตำหนิรูปพรรณคนร้าย กระทั่งทราบคนร้าย คือ นายวิชชุพันธ์ รัตนรังสรรค์ หลังก่อเหตุได้หลบหนีมากบดานที่หอพักเลอ ชาเลท์ สวีท ห้องที่ 302 บริเวณ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และสามารถจับกุมคนร้ายได้หลังจากก่อเหตุ เพียง 1 วัน โดยคนร้ายอ้างว่าไม่คิดหลบหนี ทั้งยังตั้งใจทิ้งหลักฐานให้ตำรวจตามตัวได้ง่าย
จากการสอบปากคำนายวิชชุพันธ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเจตนาฆ่าผู้ตายจริง โดยอ้างว่ามีเหตุผิดใจกันมานาน เนื่องจาก ผู้ตายเป็นอาของสามีเก่าของนางสาวบี (นามสมมติ)ที่ได้เลิกรากันไปแล้ว แต่ยังมาพักอาศัยอยู่ด้วยกัน พร้อมลูกติดสามีเก่าของนางสาวบี (นามสมมติ) ซึ่งผู้ตายเคยมีปากเสียงกับผู้ต้องหาเรื่องกีดกันไม่ให้ตนคบหานางสาวบี (นามสมมติ) เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่าตนเองและนางสาวบี (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่ถูกข่มขืนได้มีสัมพันธ์คบหากัน จากการทำงานในพื้นที่ใกล้กัน โดยนางสาวบี (นามสมมติ) ได้ทำงานอยู่ในท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนนายวิชชุพันธ์ เคยทำงานร้านแม็คโดนัล ในท่าอากาศยานเชียงใหม่เช่นกัน ก่อนจะถูกไล่ออกจากงาน และไม่มีงานทำมาจนปัจจุบัน
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อนายวิชชุพันธ์ ผู้ต้องหาตกงานก็ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ และพยายามติดต่อกับนางสาวบี (นามสมมติ)  อยู่เสมอ แต่นางสาวบี (นามสมมติ) กลับไม่ยอมติดต่อ ไม่รับโทรศัพท์ แต่อย่างใด นายวิชชุพันธ์ จึงเดินทางจากกรุงเทพฯ มาหาที่หอพักในเวลาประมาณ 13.00 น.แต่กลับพบแต่ผู้ตาย และมีปากเสียงกันอีก จึงเกิดโทสะเข้าทำร้าย โดยการเตะเข้าที่ลำตัว ผู้ตาย ในจุดสำคัญกว่า 50 ครั้งจนสลบไป ก่อนจะลากนำไปกดหัวจมน้ำเสียชีวิตคาห้องน้ำในหอพักและดักซุ่มรอจนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น.นางสาวบี (นามสมมติ) เดินทางกลับมา นายวิชชุพันธ์ จึงพยายามเข้าหว่านล้อม 
แต่นางสาวบี (นามสมมติ)ไม่ยอมเจรจาและสังเกตุเห็นอาของสามีเก่า นอนแข็งทื่ออยู่ในห้องน้ำ ก่อนที่นางสาวบี (นามสมมติ) จะส่งเสียงขอความช่วยเหลือ นายวิชชุพันธ์ ก็เข้าทำร้ายทุบตี ก่อนจะปลุกปล้ำ จนสำเร็จความใคร่และหลบหนีไป ทั้งนี้ นายวิชชุพันธ์ยังอ้างว่าเป็นแชมป์เทควันโด รู้หลักที่จะเตะจุดที่ทำให้คนสลบและทำร้ายจุดไหนทำให้คนหมดเรี่ยวแรงส่งเสียงไม่ได้ จึงสามารถฆาตกรรม และข่มขืนเหยือได้โดยสะดวก ทั้งยังเรียนจบนิติศาสตร์ รู้กฎหมาย จึงตั้งใจทิ้งหลักฐานไว้ให้ตำรวจ คือผ้าขาวม้าของตน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องเสียแรงตามหาตนให้เหนื่อย
ขณะที่จากการสอบปากคำ นางสาวบี (นามสมมติ) ผู้เสียหายกลับให้การว่าไม่เคยมีสัมพันธ์กับนายวิชชุพันธ์ แต่อย่างใด ซึ่งนายวิชชุพันธ์ พยายามตื้ออยู่เป็นปี แต่ตนก็ไม่เล่นด้วย ไม่ต้องการพูดคุย เนื่องจากนายวิชชุพันธ์ มีลักษณะไม่น่าไว้ใจ มีอาการชอบคิดไปเอง ทั้งนี้ ตนได้เลิกรากับสามีเก่าไปนานแล้ว แต่ก็ยังอาศัยอยู่กับอาของสามีเก่า เพื่อช่วยกันเลี้ยงบุตรของตนที่เกิดจากสามีเก่าด้วยกัน ก่อนที่จะเกิดเหตุดังกล่าว