svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เล็งรื้อโครงสร้างกำกับดูแลงานสอบบัญชี

25 มิถุนายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กระทรวงพาณิชย์ หารือ สภาวิชาชีพบัญชี และ ก.ล.ต. เตรียมปรับโครงสร้างการกำกับดูแลคุณภาพงานสอบบัญชีให้ครอบคลุมทั้งผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชี เน้นความรับผิดตามกฎหมายทั้ง 2 ส่วน พร้อมเร่งเพิ่มจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนให้มีความสัมพันธ์กับจำนวนบริษัทจดทะเบียน ป้องกันการขาดแคลนในอนาคต


               นายบุณยฤทธิ์กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับ นายกสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ และนางสาวรื่นวดีสุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เพื่อเตรียมปรับโครงสร้างการกำกับดูแลคุณภาพงานสอบบัญชีของประเทศไทยซึ่งปัจจุบันจะเน้นด้านการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีเป็นหลักหากผู้สอบบัญชีมีการปฏิบัติงานบกพร่องหรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแล้วตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535กำหนดให้ผู้สอบบัญชีเท่านั้นที่ต้องรับผิดตามกฎหมาย

 



ทั้งนี้ความเห็นขอทุกฝ่ายเห็นว่าควรพิจารณาแก้ไขการกำกับดูแลให้ครอบคลุมถึงสำนักงานสอบบัญชีด้วยเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศสมาชิก International Forum of IndependentAudit Regulator (IFIAR) จำนวน 55 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยจะมีการกำกับทั้งผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชี จำนวน 52 ประเทศ เช่นสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น

 

            


    "เบื้องต้น สำนักงานก.ล.ต.ได้จ้างผู้วิจัยมาทำการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลสำนักงานสอบบัญชีและผู้สอบบัญชีในต่างประเทศเพื่อนำมาประกอบการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535ในขณะที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างการพิจารณาเสนอปรับปรุงพ.ร.บ.วิชาชีพบัญชี พ.ศ.2547เพื่อให้รองรับและสอดคล้องกับการปรับโครงสร้างการกำกับดูแลคุณภาพงานสอบบัญชีด้วยเช่นกัน"

 

        

        นอกจากนี้ยังได้หารือประเด็นที่จะเอื้อต่อการเพิ่มจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนให้มีความสัมพันธ์กับจำนวนบริษัทจดทะเบียนเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดทุนไทยในอนาคตโดยการสร้างแรงจูงใจเพื่อให้ผู้สอบบัญชีเข้ามาเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนมากยิ่งขึ้นเช่น การจัดหาเครื่องมือในการตรวจสอบ การพัฒนาองค์ความรู้ที่จำเป็น การจัดหาที่ปรึกษาเมื่อมีข้อโต้แย้งกับผู้ประกอบการฯลฯโดยสัดส่วนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนมีจำนวนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับจำนวนผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั้งหมดปัจจุบันมีผู้สอบบัญชีรับอนุญาต จำนวน 9,988 ราย แต่มีผู้สอบบัญชีในตลาดทุน(สำนักงาน ก.ล.ต.ให้ความเห็นชอบ) จำนวน 240 รายเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 2.40ของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั้งหมด ในขณะที่มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีจำนวน712 บริษัท เมื่อเปรียบเทียบกับผู้สอบบัญชีในตลาดทุนจะอยู่ในอัตราส่วน 3 บริษัทต่อ 1 ผู้สอบบัญชี ซึ่งถือว่ามีปริมาณที่ไม่สมดุลกัน และในอนาคตอาจเกิดปัญหาการขาดแคลนได้หากไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุน

 



                "การสอบบัญชีเป็นงานบริการที่สร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชนงานสอบบัญชีที่มีคุณภาพจะช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนักลงทุนและภาคธุรกิจมีความมั่นใจในการนำงบการเงินไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจก่อนการลงทุนซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานสอบบัญชีมีคุณภาพนอกจากตัวผู้สอบบัญชีจะมีความรู้ความสามารถ และมีมาตรฐานทางจรรยาบรรณแล้วสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีอย่างเป็นระบบก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้งานสอบบัญชีมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นอันจะส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่น่าเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคงรองรับการเปิดการค้าเสรีของโลกที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน" นายบุณยฤทธิ์กล่าว


logoline