"ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะช่วยเปิดตลาดผลไม้คุณภาพดีของไทยเข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น เพราะ CAWA เป็นผู้นำเข้าผลไม้รายใหญ่ของจีนมีตลาดที่อยู่ในความดูแลกว่า 8,200 แห่ง โดยเบื้องต้นจะทำตลาดในผิงเสียง ปักกิ่งเซี่ยงไฮ้ กวางโจว เริ่มต้นที่ทุเรียน ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ในการทำงาน คือทุเรียนที่ส่งไปจากตลาดนี้ เมื่อไปถึงเมืองจีน คุณภาพ รสชาติต้องเหมือนกับกินที่เมืองไทย นั่นคือเป้าหมาย ซึ่งหากทำได้เช่นนี้จะช่วยเพิ่มราคาให้กับทุเรียนไทยได้เพิ่มขึ้น"นายวิชัยกล่าว
สำหรับเครื่องหมาย AGQC เป็นเครื่องหมายที่กรมฯให้การรับรองตลาดใน 5 ด้าน คือ มีการคัดแยกคุณภาพสินค้า , มีการตรวจสอบสารพิษตกค้าง, ตรวจสอบโรคพืชและแมลง , มีมาตรฐานการบรรจุหีบห่อและการเก็บรักษาที่คุมคุณภาพสินค้า ซึ่งทั้งสองฝ่าย จะร่วมกันในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลมาตรฐานAGQC สำหรับผลไม้แต่ละชนิดต่อไปโดยเบื้องต้นกำหนดจะนำผู้ประกอบการไทยที่ได้รับเครื่องหมาย AGQC เดินทางไปจีนในเดือนก.ค.2562เพื่อประชาสัมพันธ์ และทาง CAWA ยังจะช่วยนำสินค้าเกษตรที่ได้รับ AGQCประชาสัมพันธ์ในแอปพลิเคชันของกระทรวงพาณิชย์จีนเพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้นด้วย
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับจีน กรมฯจะร่วมมือกับตลาดมรกต ในการตรวจสอบคุณภาพทุเรียนก่อนส่งออกทุกตู้เพื่อป้องกันปัญหาการส่งทุเรียนอ่อน ทุเรียนไม่ได้คุณภาพไปยังจีน เพราะปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของทุเรียนไทย และจะทำให้ราคาทุเรียนตกต่ำแต่ถ้าคุมคุณภาพได้ จะทำให้ชื่อเสียงของทุเรียนไทยยังคงได้รับการยอมรับในตลาดจีนและเกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาดีขึ้น แต่เกษตรกรก็ต้องร่วมมือห้ามตัดทุเรียนอ่อนมาส่งขายด้วย
นาย Jiang Bo รองประธานสมาคมตลาดสินค้าเกษตรจีน กล่าวว่าในปี 2561 ที่ผ่านมา จีนนำเข้าผลไม้จากไทยเป็นอันดับ 1 แต่ราคาเฉลี่ยลดลงส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเรื่องคุณภาพ ทำให้กระทบต่อราคาขาย จึงอยากขอให้ช่วยดูแลให้ดีเพราะหากไม่ได้รับการแก้ไข จะกระทบต่อการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนและอาจจะถูกผลไม้ของคู่แข่งของไทย เช่น เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา แย่งตลาดได้