svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

เจาะลึก...ตรวจมะเร็ง13ชนิดด้วย "เลือด1หยด"!

18 มิถุนายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ช่วงนี้วงการแพทย์ด้านวินิจฉัยโรคมะเร็งกำลังตื่นเต้นกันมาก หลังบริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นประกาศความสำเร็จในการใช้เลือดเพียง "1 หยด" สามารถตรวจหาโรคมะเร็งได้ทั่วร่างกายกว่า 13 ชนิด และประกันความถูกต้องเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมราคาแค่หลักพันบาท ซึ่งเป็นราคาคนไทยถือบัตรทองน่าจะใช้สิทธิได้ด้วย !

เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา สื่อมวลชนญี่ปุ่นช่วยกันแถลงผลสำเร็จของนักวิจัยจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ร่วมกับ บริษัทโทเรย์ (Toray Industries) คิดค้นเทคโนโลยีตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มต้นด้วยเลือดเพียงจำนวนน้อยนิด โดยใช้เทคโนโลยีตรวจหาส่วนของสารพันธุกรรมและทดลองตรวจกับเลือดผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เก็บไว้ประมาณ 4 หมื่นราย
เทคโนโลยีนี้ไม่ได้ตรวจมะเร็งได้ทีละชนิดเท่านั้น แต่สามารถค้นหาเซลล์มะเร็งทั่วร่างกายได้ถึง 13 ชนิดพร้อมกัน ได้แก่ มะเร็งสมอง มะเร็งปอด มะเร็งช่องท้อง มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำดี มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน

เจาะลึก...ตรวจมะเร็ง13ชนิดด้วย "เลือด1หยด"!


มีการเปิดเผยวิธีการตรวจว่าใช้ "เทคโนโลยีการตรวจไมโครอาร์เอ็นเอ" (microRNA) ทำให้เกิดความแม่นยำถึงร้อยละ 95 และสามารถตรวจพบเซลล์ร้ายหรือเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มแรก หรือที่เรียกกันว่าระยะที่ 1 ดีกว่าวิธีตรวจหามะเร็งที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบันที่ยังไม่สามารถตรวจมะเร็งในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปกติทุกวันนี้ เมื่อคนไข้รู้สึกตัวว่าร่างกายมีความผิดปกติแล้วไปพบแพทย์ กว่าจะรู้ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ ต้องอาศัยวิธีการตรวจหลากหลายรูปแบบ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ร่วมกันก่อนที่หมอจะกล้าวินิจฉัยว่าเป็น "มะเร็ง" หรือไม่ เช่น การตรวจชิ้นเนื้อ การตรวจสารคัดหลั่ง การเอกซเรย์ การอัลตร้าซาวด์ การตรวจเลือดเพื่อหาโปรตีนมะเร็ง ฯลฯ และที่สำคัญมักตรวจพบเมื่อมะเร็งอยู่ในระยะท้ายแล้ว
วิธีการตรวจด้วย "เทคโนโลยีไมโครอาร์เอ็นเอ" แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร ?
ศ.พญ.ดร.ณัฏฐิยา หิรัญกาญจน์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ อธิบายว่า เซลล์มะเร็งคือเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตผิดปกติในร่างกายคน การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งที่แม่นยำมีหลายวิธีเช่น การตรวจโปรตีนจากเลือด ตรวจจากสารคัดหลั่ง การตัดชิ้นเนื้อที่สงสัยไปตรวจ ฯลฯ วิธีการเหล่านี้จะตรวจพบเซลล์มะเร็งก็ต่อเมื่อมีจำนวนมากในระดับหนึ่ง หรือเกิดการเติบโตลุกลามขยายตัวขนาดใหญ่ขึ้น หรือที่เรียกกันว่า การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor marker) ซึ่งเป็นสารถูกผลิตขึ้นจากเซลล์มะเร็งเอง หรือผลิตจากเซลล์อื่นๆ ของร่างกายที่ตอบสนองต่อมะเร็ง นอกจากนี้สารบ่งชี้มะเร็งหลายชนิดสามารถตรวจพบได้ในคนปกติ ในขณะเดียวกันในผู้ป่วยมะเร็งบางรายก็อาจตรวจไม่พบ
"วิธีการตรวจด้วยไมโครอาร์เอ็นเอ คือการตรวจหาสารที่อยู่ในเลือด เป็นระดับสารพันธุกรรมที่เป็นโมเลกุลขนาดเล็กมาก แค่เซลล์มะเร็งเริ่มก่อตัวขึ้นมา ก็สามารถตรวจพบได้แล้ว ไม่ต้องรอให้ขยายตัวเป็นขนาดใหญ่ การตรวจด้วยวิธีหาไมโครอาร์เอ็นเอนี้ วงการแพทย์ค้นพบมานานแล้ว แต่ต้องใช้เลือดประมาณ 1 หลอด หรือ 5-10 ซีซี และใช้เวลาตรวจนาน ตรวจมะเร็งได้ทีละไม่กี่ชนิดเท่านั้น เพราะฉะนั้นเทคโนโลยีที่นักวิจัยญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นนั้น จะช่วยให้ใช้เลือดเพียงหยดเดียวแล้วตรวจเซลล์มะเร็งได้หลายชนิดพร้อมๆ กัน ถือเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชมมาก เพราะเซลล์มะเร็งนั้น ยิ่งค้นพบเร็วเท่าไร ยิ่งรักษาได้ง่ายขึ้น บางครั้งแค่ผ่าตัดเอาเซลล์ผิดปกติออกก็หายเป็นปกติได้ แต่ถ้าปล่อยให้เซลล์เติบโตจะรักษายากขึ้นไปเรื่อยๆ"
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญข้างต้นกล่าวต่อว่า ในร่างกายมนุษย์มีไมโครอาร์เอ็นเอเป็นหลายพันตัว ดังนั้นความลับของเทคโนโลยีนี้คือ ไม่รู้ว่าใช้ตัวไหนมาตรวจจับเซลล์มะเร็งแต่ละประเภท และจุดเด่นคือเทคโนโลยีที่สามารถตรวจได้จากเลือดเพียงหยดเดียว คงต้องรอดูผลการทดลองต่อไปในขั้นสุดท้ายว่าจะมีผลคืบหน้าอะไรอีกบ้าง และจะได้รับการอนุมัติให้ขายได้ทั่วไปเมื่อไร ส่วนตัวแล้วรู้สึกดีใจที่ได้ข้อมูลมาว่าบริษัทญี่ปุ่นตั้งใจผลิตเครื่องมือตรวจหามะเร็งนี้มาขายในราคาเพียงแค่ 3,000 กว่าบาทเท่านั้น
"หมายความว่าถ้าชุดตรวจนี้ราคาไม่แพง พวกเราสามารถสั่งซื้อเข้ามาตรวจหาเซลล์ที่เจริญผิดปกติในร่างกายผู้ป่วยคนไทยได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยให้การรักษาทำได้ง่าย ด้วยราคาเท่านี้ คนไทยที่ถือสิทธิบัตรทองก็น่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ เป็นการตรวจที่มีความคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะดีกว่าปล่อยให้เซลล์มะเร็งมีขนาดใหญ่โตหรือขยายลุกลามไปมาก ทำให้รัฐต้องจ่ายค่ารักษามะเร็งแพงขึ้นไปอีกหลายสิบเท่า" พญ.ณัฏฐิยา กล่าว
ช่วงนี้คงต้องรอผลการวิจัยขั้นสุดท้ายจากศูนย์มะเร็งแห่งชาติของญี่ปุ่น ที่ตั้งเป้าหมายว่าอีกไม่เกิน 3 ปี หน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบน่าจะอนุญาตให้ผลิตเครื่องตรวจมะเร็งด้วยเลือดหยดเดียวนี้จำหน่ายทั่วไปได้
ทุกวันนี้คนทั่วโลกต้องควักเงินจ่ายค่า "ยารักษามะเร็ง" ปีละไม่ต่ำกว่า 9 ล้านล้านบาท เฉพาะประเทศไทยตัวเลขทะลุไปถึง 8 หมื่นล้านบาทแล้ว หวังว่าตอนสั่งเข้ามาในไทย กระทรวงสาธารณสุขจะยกมือเห็นชอบให้รวมอยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพของคนไทยทุกคน ไม่ใช่ให้เป็นเฉพาะสิทธิของคนรวยหรือข้าราชการเท่านั้น
เพราะเซลล์มะเร็งร้าย "ยิ่งตรวจพบเร็ว ยิ่งจ่ายค่ารักษาน้อยลง"!

logoline