ก็ฟังจะดูมีเหตุมีผลดี เพราะในแต่ละวันนั้น เรามักจะพบเจอเรื่องที่ไม่ราบรื่นและอุปสรรคที่มากมายก่ายกอง แต่หากเราลองคิดให้ลึกกว่านั้น การนำคำกล่าวข้างต้นนั้นมาใช้ในการดำเนินชีวิต และเราจะไปพบความสุขในชีวิตได้อย่างไรกันเล่า! ทัศนคติที่เป็นด้านลบนี้ จะทำให้เราหมดอาลัยตายอยากในชีวิต และก็จะพาลคิดแค่ว่า "เราเกิดมา เพื่อรอความตาย แค่นั้นเอง"
อยากให้ผู้อ่านได้ลองฟังนิทานจาดคลิปด้านล่างนี้ และเปรียนเทียบว่า ระหว่างการเอาแต่ตัดพ้อกับชีวิต หรือ ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นและสู้ต่อ แบบไหนน่าเลื่อมใสมากกว่ากัน
จากคลิปนิทานด้านบน จะเห็นแล้วว่า การคิดสั้น ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย แต่ในทางกลับกัน การมีชีวิตอยู่นี่แหละมันมีประโยชน์กว่าเยอะนัก อาจจะไม่ใช่เพื่อตัวเอง 100% แต่ก็ยังสามารถทำประโยชน์เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้ ... วัยรุ่นแถวนี้น่าจะเคยฟังเพลง "เตรียมตัวตาย" ของวงบอดี้แสลม ที่เนื้อเพลงประโยคสุดท้ายบอกไว้ว่า "ความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือมีชีวิตเพื่อใคร" ฉะนั้นหากจะคิดสั้นก็อย่าลืมว่าข้างหลังยังมีคนที่เรารักรออยู่
เรื่องราวต่างๆ ที่มันไม่ได้ดั่งใจเราเอาเสียเลย ก็เหมือนกันกับ "รั้ว" ในกีฬาวิ่งข้ามรั้ว ในเมื่อเราไม่มีทางที่จะเลี่ยงหลบมันได้ ก็พยายามกระโดดข้ามมันให้พ้นๆเสีย