รวบหนุ่มเกาหลีใต้ เอเย่นต์ค้ายา รับตั้งใจยึดเป็นอาชีพ

วันที่ 15 มิถุนายน พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก สั่งการให้ พ.ต.ท.สาธิต สอนชา รอง ผกก.สส.สน.บางรัก พ.ต.ท.พิระวัตร์ วงศ์ศิริเมธีกุล พ.ต.ต.อนุพงษ์ อรุณคีรีโรจน์ สว.สส.สน.บางรัก สั่งการให้ ร.ต.อ.พันธุ์พิศณ์ วัชรินทร์พร ร.ต.อ.วุฒิชัย อธิวรปัญญา รอง สว.สส.สน.บางรัก ร.ต.ต.ดิลกภัทร์ กังประโคน รอง สว.(สส.) สน.บางรัก ด.ต.ประเสริฐ พันสาง และ ด.ต.สุระสิทธิ์ คำล้นธนิสร์กุล ผบ.หมู่ (สส.) สน.บางรัก ร่วมกันจับกุมตัวนายลี มยุง ฮุน (MR.LEE MYUNG HOON) อายุ 35 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 237.02 กรัม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสด 20,000 บาท คีตามีนหนัก 14.32 กรัม ยาอี 6 เม็ด ยาเม็ดคามากร้า (Kamagra) 6 กล่อง ยาจีวอเตอร์ (G-Water) 13 หลอด ยาป็อปเปอร์ (Popper) 89 หลอด ช้อนตวง จำนวน 1 อัน เครื่องชั่ง จำนวน 1 เครื่อง ถุงพลาสติกชนิดกดปิดดึงเปิดขนาดเล็ก สำหรับแบ่งยาเสพติดจำหน่าย 415 ถุง ขนาดใหญ่ 6 ถุง อุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวน 1 ชุดจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง กลางซอยสีลม 6 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องตรวจยึดของกลางห้องเลขที่ 15/14 ชั้น 1 คอนโดแห่งหนึ่ง ซอยสีลม 3 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสน.บางรัก ได้รับแจ้งจาก ว่ามีชายชาวต่างชาติสัญชาติเกาหลี รูปร่างสันทัด ผิวขาวเหลือง มีพฤติการณ์ยุ่งเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด อยู่บริเวณถนนสีลม และบริเวณใกล้เคียง อยู่เป็นประจำ โดยสายลับได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่าสามารถติดต่อซื้อยาไอซ์จากชายชาวต่างชาติสัญชาติเกาหลีใต้คนดังกล่าวได้ เมื่อทราบดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นเพื่อร่วมกันวางแผนล่อซื้อ ต่อมาวันที่ 13 มิ.ย. เวลาประมาณ 16.45 น. นายลี มยุง ฮุน อายุ 35 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ มีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงตามที่สายลับได้แจ้งไว้ เดินเข้ามาบริเวณใต้หอพักแห่งหนึ่งกลางซอยสีลม 6 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จากนั้นสายลับและนายลี มยุง ฮุนได้ยื่นส่งมอบสิ่งของให้แก่กัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวให้ผู้ถูกจับทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสน.บางรัก ได้รับแจ้งจาก ว่ามีชายชาวต่างชาติสัญชาติเกาหลี รูปร่างสันทัด ผิวขาวเหลือง มีพฤติการณ์ยุ่งเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด อยู่บริเวณถนนสีลม และบริเวณใกล้เคียง อยู่เป็นประจำ โดยสายลับได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่าสามารถติดต่อซื้อยาไอซ์จากชายชาวต่างชาติสัญชาติเกาหลีใต้คนดังกล่าวได้ เมื่อทราบดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นเพื่อร่วมกันวางแผนล่อซื้อ ต่อมาวันที่ 13 มิ.ย. เวลาประมาณ 16.45 น. นายลี มยุง ฮุน อายุ 35 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ มีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงตามที่สายลับได้แจ้งไว้ เดินเข้ามาบริเวณใต้หอพักแห่งหนึ่งกลางซอยสีลม 6 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จากนั้นสายลับและนายลี มยุง ฮุนได้ยื่นส่งมอบสิ่งของให้แก่กัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวให้ผู้ถูกจับทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบสวนนายลี มยุง ฮุนให้การรับว่ายาไอซ์หนักประมาณ 101.77 กรัมใส่ถุงพลาสติก ที่มีการซื้อขายเป็นของตนเองจริง โดยขายยาไอซ์ดังกล่าวในราคา 10,000 บาท ตั้งใจยึดทำเป็นอาชีพและอาศัยอยู่ภายในประเทศไทยมาเป็นปีแล้ว อยู่เกินกว่ากำหนดตั้งแต่เดือนก.ย.61 แต่ยังไม่เคยมีประวัติถูกจับกุมมาก่อนแต่อย่างใด ส่วนผลการตรวจหาเมทแอมเฟตามีนนั้นพบว่าเป็นบวกมีสารเสพติดอยู่ภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์การเสพยาเสพติด และยาเสพติดให้โทษถูกซุกซ่อนไว้ภายในห้องเลขที่ 15/14 ชั้น 1 ในคอนโดแห่งหนึ่ง ภายในซอยสีลม 3 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่พักอีกเป็นจำนวนมาก นายลี มยุง ฮุน จึงได้พาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการเข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าวพบของกลางในคดีเพิ่มเติมเป็นยาไอซ์หนักประมาณ 135.25 กรัม คีตามีนหนัก 14.32 กรัม ยาอี 6 เม็ด ยาปลุกเซ็กหรือยาเม็ดคามากร้า (Kamagra) 6 กล่อง และยาเสียสาวหรือยาจีวอเตอร์ (G-Water) 13 หลอด และยาป็อปเปอร์ (Popper) 89 หลอด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ,เป็นบุคคลต่างด้าว (เกาหลีใต้) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด ,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาอี) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป