ปริศนาอาการ "น้ำตาล บุตรศรัณย์"

น.ส.บุตรศรัณย์ ทองชิว หรือ น้ำตาล แจ้งเกิดจากเวที เดอะสตาร์ 5 เป็นที่รู้จักกันทั้งในบทบาทของนักร้อง และนักแสดง กับซิทคิมอารมณ์ดี "ผู้กองเจ้าเสน่ห์" ในบทหมวดรัน ที่ผ่านมาเธอไม่มีอาการบ่งชี้ของโรคต่างๆจนกระทั่ง เมื่อ วันที่ 11 มิ.ย. เธอได้หมดสติและโดยเริ่มจากเลือดกำเดาไหล แล้วสำรอกออกมาเป็นเหมือนลิ่มเลือด หลังจากนั้นมีเลือดไหลออกจากปากจมูก เริ่มหายใจไม่คล่อง และหมดสติผู้อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นก็คือ คุณแม่ของน้ำตาลได้ปั๊มหัวใจ เพื่อช่วยเหลืออาการเบื้องต้นก่อนถูกนำตัวส่ง รพ.สมุทรสาครและส่งต่อไปยัง รพ.ธนบุรี หลังจากนั้นอาการยิ่งหนักขึ้นเลือดออกมาเพิ่ม ต้องทำการให้เลือด และทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้ จนกระทั่งกลางดึก น้ำตาลหัวใจหยุดเต้น 2 ครั้ง จนมีการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด

เช้าวันถัดมา วันที่ 12 มิ.ย.ทางครอบครัวได้ส่งตัวน้ำตาลเข้ามารักษาอาการป่วยที่ รพ.ศิริราช ตั้งแต่ช่วงเวลา 6 โมงเช้า ทีมแพทย์ศิริราชตรวจพร้อมวางแผนการรักษาผู้ป่วย รวมทั้งใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการเฝ้าระวังสัญญาณชีพอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง จนสัญญาณชีพผู้ป่วยคงที่ เลือดไม่ออกในท่อหายใจ สามารถนำผู้ป่วยไปตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมได้

เข้าสู่วันที่ 3 ของการรักษาวันที่ 13 มิ.ย.น้ำตาลมีสัญญาณชีพคงที่ และไม่มีเลือดออกทางท่อหายใจแล้ว แพทย์จึงได้พิจารณานำผู้ป่วยส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อการวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการเลือดออกที่ปอด แต่ไม่พบตำแหน่งเลือดออกที่ปอดทั้งสองข้าง ปอดไม่เห็นรอยโรคที่ทำให้เห็นเลือดออก และสมองบวมมาก แต่ไม่มีเลือดออกในสมองให้เห็นจนในช่วงบ่ายวันนั้น ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แถลงอาการว่า โรคนี้เป็นโรคที่เจอได้น้อยมาก ขณะนี้ต้องรักษาประคับประคองเพื่อให้คนไข้ผ่านพ้นระยะวิกฤติ จึงไปสู่ขั้นตอนต่อไป หาสาเหตุจุดเลือดออก หรืออุดตัน โดยขณะนี้ถือว่าอาการคงที่ เลือดหยุดออก ได้รับการใส่เครื่องช่วยเหลือเพื่อประคับประคองอาการ เฝ้าระวังอาการอยู่ จนกระทั่งช่วงเวลา 02.17 น. วันที่ 14 มิ.ย. ได้มีการแจ้งข่าวจากคุณพ่อของน้ำตาลว่า น้ำตาลได้จากพวกเราไปแล้ว

และมีการแถลงข่าวจาก. ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ว่า หลังจากที่ผู้ป่วยเข้ามารักษาในวันที่ 12 มิ.ย.ตลอดวัน สัญญาณชีพอยู่ในระดับดี ออกซิเจนก็อยู่ในระดับดี ไม่มีหลักฐานว่าเลือดออกซ้ำ แต่มีเรื่องที่กังวล คือ สมองบวม และ การเลือดออกซ้ำและเนื่องด้วยจากอาการสมองบวมทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอจึงอักเสบ โดยมีเวลาที่สมองจะบวมขึ้นเรื่อยๆ คือ 72 ชั่วโมง ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่เมื่อรักษาได้อาการบวมจะค่อยๆ ลดลง แต่ระหว่างนั้น อยู่ๆ ความดันเลือดตกลง อาการต่างๆ เริ่มแย่ลง และอาการเข้าสู่วิกฤติ และไม่สามารถผ่านช่วงดังกล่าวไปได้ ทำให้น้ำตาลจากไปในที่สุด
และทางครอบครัวของน้ำตาลก็ได้เคลื่อนย้ายศพ จากโรงพยาบาลศิริราช ในช่วงเที่ยงเพื่อไปทำพิธีทางศานา ที่วัด ป้อมวิเชียรโชติการาม จ. สมุทรสาคร และจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 18 มิถุนายน ในเวลา 16.00 น.โดยที่ครอบครัวยังบอกด้วยว่า "ด้วยความปราถนาดีของครอบครัว จึงได้อนุญาตให้ทางทีมแพทย์ศิริราช นำชิ้นส่วนภายในของน้องน้ำตาล (บางชิ้นที่ทางแพทย์สงสัย ไปศึกษา ชันสูตรต่อไป..เพื่อวันข้างหน้า จะได้มีวิธีรักษา หากมีใครมีอาการแบบเดียวกับ โรคน้ำตาล)