เมื่อวาน หัวหน้าพรรคเสรรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวภายหลังร่วมประชุมแกนนำ 7 พรรคพันธมิตรว่า จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติและที่มาของ ส.ว.250 คน ภายหลังรองนายกฯ วิษณุ ได้เปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว. และพบว่ากรรมการสรรหาส่วนใหญ่มีชื่อเป็น ส.ว.ด้วย (อาจเข้าขายผลประโยชน์ทับซ้อน แถม ส.ว.ทุกคนเมื่อได้รับแต่งตั้งแล้ว ก็ย้อนกลับมาโหวตให้ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ โดยที่ พลเอกประยุทธ์ ก็คือหัวหน้า คสช.ที่คัดเลือก ส.ว.เข้ามาดำรงตำแหน่งนั่นเอง)
ข้อมูลที่รองนายกฯ วิษณุเปิดเผย ไม่ใช่คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. แต่บอกว่ามีใครเป็นกรรมการสรรหา ส.ว.บ้าง ปรากฏว่ากรรมการมีทั้งสิ้น 10 คน ประกอบด้วย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง และตัววิษณุเอง ร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งก็คือแผงรองนายกฯ ในรัฐบาล คสช.นั่นเอง
ส่วนอีก 5 คนมาจาก คสช.ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้า คสช.พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้า คสช.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งเป็นสมาชิก คสช.ด้วย และนายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธาน สนช.
"เนชั่นทีวี" ตรวจสอบสถานะของกรรมการสรรหาฯทั้ง 10 คน ปรากฏว่าปัจจุบันหากไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ก็มีชื่อเป็น ส.ว. ประกอบด้วยพลเอกประวิตร นายสมคิด และนายวิษณุ มีชื่อเป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ พลเอกอนุพงษ์ มีชื่อเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอีก 1 สมัย พลเอกฉัตรชัย พลอากาศเอกประจิน พลเอกธนะศักดิ์ พลเรือเอกณรงค์ พลตำรวจเอกอดุลย์ และนายพรเพชร ได้เป็น ส.ว.
รองนายกฯ วิษณุ ยังบอกด้วยว่า กรรมการสรรหาฯ ประชุมกัน 6 ครั้ง แบ่งสายกันไปเสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่ตนเองรับผิดชอบ เช่น สายเศรษฐกิจ ก็ให้รองนายกฯ สมคิดไปสรรหา สายความมั่นคงก็ให้ พลเอกประวิตร ไปสรรหา เป็นต้น แต่ยืนยันว่าไม่มีกรรมการสรรหาฯ "เสนอชื่อตัวเอง" แต่มี "เสนอชื่อกันเอง"ส่วนการประกาศรายชื่อ ส.ว.สำรอง ในกลุ่มที่ได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหาฯ ที่ คสช.ตั้งขึ้น ซึ่งประกาศล่าช้ากว่า ส.ว.สำรอง ในกลุ่ม 10 สาขาอาชีพนานเกือบ 1 เดือนนั้น พร้อมบอกว่า การประกาศรายชื่อล่าช้าไม่ผิดกฎหมาย