"กวินทร์" พร้อมช่วย "ช้างศึก" คว้าแชมป์ "คิงส์คัพ ครั้งที่ 47"

ตอนนี้ผู้รักษาประตูกัปตันทีม "ช้างศึก" วัย 29 ปี ได้สลัดอาการบาดเจ็บทิ้งไป และกำลังเรียกความฟิต จดจ่ออยู่กับการคัมแบ็คกลับมาช่วยทีมชาติไทย ลงทำศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ที่สนาม ช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 5 และ 8 มิถุนายนนี้
"ผมมีความภาคภูมิใจและอยากลงช่วยทีมชาติไทยทุกครั้ง"
"ผมรู้สึกเสียดายมากครับที่พลาดโอกาสลงแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ เพราะเป็นการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ผมรอคอยมานานที่ลงเล่นรายการนี้ แต่น่าเสียดายที่ยังมีอาการบาดเจ็บ" มือกาว "ช้างศึก" เปิดเผยความในใจ
"ส่วนรายการ ไชน่า คัพ ก็อย่างที่บอกครับ ว่าทุกครั้งที่ทีมชาติไทยมีโปรแกรมแข่งขัน ผมก็อยากลงเล่นให้ทีมชาติอยู่แล้วครับ แต่ตัวผมเองช่วงเวลานั้นผมเพิ่งหายเจ็บ และกลับมาซ้อมได้ เดือนกว่าๆ สุดท้ายผมก็เคารพการตัดสินใจของโค้ช"
ส่วนการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ นั้น "เจ้าตอง" ก็หวังว่าจะมีชื่อกลับมาติดทีมชาติไทย เพื่อล่าแชมป์และสร้างความสุขให้คนไทยอีกครั้ง
"ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ เป็นถ้วยที่สำคัญของนักฟุตบอลไทย ซึ่งเป็นถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งผมเองรู้สึกเป็นเกียรติทุกครั้งที่ได้มีโอกาสลงเล่นรายการนี้ ผมอยากคว้าแชมป์และเก็บถ้วยรางวัลไว้ที่ประเทศไทยครับ"
ขณะทีมร่วมโม่แข้ง ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย, เวียดนาม และกือราเซา นั้น ล้วนมีอันดับในฟีฟ่าแรงกิ้งสูงกว่าทีมชาติไทย ซึ่งผู้รักษาประตูทีมชาติไทยเองก็ยอมรับว่า หลายๆ ทีมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และเป็นทีมที่แข็งแกร่งทั้งสิ้น
" อินเดีย เป็นทีมที่มีการพัฒนาดีมากๆ ในช่วงหลัง ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีโอกาสแข่งกับ อินเดีย ในเอเชียน คัพ แต่ผมก็ได้ดูการถ่ายทอดสด ซึ่งเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และสร้างเซอร์ไพรส์ได้ดีทีเดียว"
"เวียดนาม ก็อย่างที่ทุกคนเห็น เค้าพัฒนามากๆ ช่วงปีหลังๆ เป็นทีมที่เล่นอย่างมีระบบ และมีความฟิตที่ดี นักเตะมีทักษะความสามารถดี และสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม"
"ส่วนกือราเซา หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับชื่อทีมนี้ แต่ทีมนี้ก็คือน้องๆ ของเนเธอร์แลนด์ดีๆ นี่เอง เพราะผู้เล่นหลายคนโอนสัญชาติมา นักเตะส่วนใหญ่ก็เล่นอยู่ในลีกของเนเธอร์แลนด์ (เอเรดิวิซี ลีก) เป็นทีมที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งฟีฟ่าอยู่ที่ 68 ของโลก"
"เราต้องฝึกซ้อมและเตรียมร่างกายให้ฟิตสมบูรณ์มากที่สุด ตั้งใจฝึกซ้อมเรียนรู้และทำความเข้าใจแท็คติคจากโค้ช"
"ผมว่านักเตะทีมชาติไทยทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำหน้าที่เพื่อทีมชาติไทยอยู่แล้ว ซึ่งไม่ว่าจะต้องแข่งกับทีมไหน เราจะฝ่าฟัน และคว้าแชมป์คิงส์คัพให้ได้ เพราะถ้วยนี้คือถ้วยของประเทศไทย เราต้องเก็บไว้ที่ประเทศไทย" ผู้รักษาประตูขวัญใจทีมชาติไทยกล่าวทิ้งท้ายด้วยความมุ่งมั่น
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 จะจัดขึ้นในวันที่ 5 และ 8 มิถุนายน 2562 ณ สนามช้าง อารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์
โดยแฟนฟุตบอลไทยทุกท่านสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ทางออนไลน์ที่ www.thaiticketmajor.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งระบบออนไลน์ และหน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งจะมีการจัดจำหน่ายทั้งแบบรายวัน และแบบแพ็คเกจ โดยแฟนบอลที่ซื้อแบบแพ็คเกจจะได้รับส่วนลด 5%
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 มีดังนี้วันที่ 5 มิถุนายน 2562
ทีมชาติกือราเซา พบกับ ทีมชาติอินเดีย ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
วันที่ 8 มิถุนายน 2562
คู่ชิงอันดับ 3 ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
คู่ชิงชนะเลิศที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
ทุกนัดจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32