svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ป.รับตัว คมแหลมสอม - เอ๋ เจ็ดเสมียน ผู้ต้องหาสำคัญจากพม่า

19 เมษายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.มนูญ แก้วกล่ำ รอง ผกก.4 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการรับส่งมอบตัวผู้ต้องหาคดีสำคัญจากประเทศพม่าจำนวน 2 คดี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.มนูญ แก้วกล่ำ รอง ผกก.4 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการรับส่งมอบตัวผู้ต้องหาคดีสำคัญจากประเทศพม่าจำนวน 2 คดีประกอบด้วย นายชยพล หรืออาคม เสียมไหม อายุ 35 ปี ชาว จ.ตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ จ.480/2561 ลงวันที่ 6 พ.ย.2561 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ นายพงศ์พันธ์ หรือเอ๋ ยังให้ผล อายุ 38 ปี ชาว จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.2/2560 ลงวันที่ 6 มกราคม 2560 ข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย หลังก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศพม่าจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า

ป.รับตัว คมแหลมสอม - เอ๋ เจ็ดเสมียน ผู้ต้องหาสำคัญจากพม่า


พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า คดีของ นายชยพล หรือ คมแหลมสอม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561 นายชยพลกับพวกได้ไปนั่งดื่มกินที่สถานบันเทิงชื่อ โรงเหล้ามหานคร@ตรัง จ.ตรัง ได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับนายสิริพล หรือหนึ่ง แต้มประสิทธิ์ และพวก ซึ่งนั่งดื่มกินอยู่โต๊ะข้างๆ นายชยพล จึงได้ใช้อาวุธปืนไล่ยิงนายสิริพล จนเสียชีวิต รวมถึงใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันไล่ยิงกลุ่มเพื่อนๆของนายสิริพล จนได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 ราย ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ สืบทราบว่า นายชยพล ภายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ประเทศพม่า ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศพม่าจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองตามกฎหมายของประเทศพม่า


พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนคดีของ นายพงศ์พันธ์ หรือ "เอ๋ เจ็ดเสมียน" นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติด โดยเป็นผลสืบเนื่องจาก เมื่อ 12 ธ.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 บช.ปส. ได้นำกำลังจับกุม นายวารุท หรือบอล ขวัญยืน อายุ 43 ปี ชาว จ.สมุทรสงคราม และนายขจรศักดิ์ หรือแจ๊ค ประเสริฐอินทร์ อายุ 35 ปี ชาว จ.ราชบุรี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 70,000 เม็ด รถเก๋งโตโยต้า และโทรศัพท์ 2 เครื่อง ที่บริเวณริมทางถนนสมุทรสงคราม-บางแพ หน้าวัดช่องลม ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ก่อนจะขยายผลสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายผู้ค้ารายใหญ่ โดยมี นายพงศ์พันธ์ หรือเอ๋ ยังให้ผล เป็นผู้สั่งการและควบคุม จากนั้นจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก ของ นายพงศ์พันธ์ ที่ จ.ราชบุรี ก่อนพบยาเสพติด แท่นพิมพ์ยาเสพติด อาวุธปืน และอาวุธสงคราม จำนวนหนึ่ง แต่ระหว่างเข้าทำการตรวจค้นนั้นปรากฏว่านายพงษ์พันธ์ เกิดไหวตัวทันหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศพม่า จับกุมในข้อหา หลบหนีเข้าเมือง

ป.รับตัว คมแหลมสอม - เอ๋ เจ็ดเสมียน ผู้ต้องหาสำคัญจากพม่า


พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศพม่าจับกุมตัวได้นั้น ทางกองปราบก็ได้พยายามติดต่อประสานกับหน่วยงานข้างเคียงของประเทศพม่าที่มีความสัมพันธ์กันดีระหว่างหน่วยงาน เพื่อขอรับตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีในไทย กระทั่งต่อมาเมื่อผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพ้นโทษจากคดีหลบหนีเข้าเมืองตามกฎหมายประเทศพม่าแล้วนั้น ก็ได้มีการประสานติดต่อมายังกองปราบเพื่อจะส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้ทางกองปราบรับตัวไปดำเนินคดี ก่อนจะมีการส่งมอบตัวผู้ต้องหา 2 คนที่ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแม่สายแห่งที่ 1 ติดกับพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ดังกล่าว


พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหา ทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง แต่ทั้ง 2 คนก็ยังยืนยันว่าไม่ได้มีการรู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพียงแต่นายชยพลรู้จักกับเพื่อนสมาชิกคนอื่นซึ่งอยู่ในกลุ่มยาเสพติดเดียวกันกับของนายพงศ์พันธ์ เพียงเท่านั้น จึงได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่เดียวกันไป และช่วงเวลาที่หลบหนีนั้นก็มักไปแฝงตัวอยู่ตามบ่อนการพนันต่างๆในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับแก่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก่อนนำตัว นายชยพล ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ส่วนนายพงศ์พันธ์ ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

logoline