ทำให้คู่หวดไทย ผ่านเข้ารอบชิงฯเป็นรายการที่ 3 ในปี 2019 โดยพบกับตัน เคียงเหม็ง กับ ไล่ เป่ยจิง คู่มือ 26 ของโลกจากมาเลเซียสำหรับคู่นี้ เคยเจอกันมา 4 ครั้ง ผลัดกันแพ้ชนะไปคนละ 2 ครั้ง ส่วนผลดวลกันนัดนี้ เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ฟอร์มยังร้องแรงต่อเนื่องใช้เวลา 41 นาที หวดชนะ ตัน เคียงเหม็ง กับ ไล่ เป่ยจิง 2-0 เกม คือ 21-14 และ , 21-6 คะแนน คว้าแชมป์แรกของปีไปครองได้สำเร็จ พร้อมส่วนแบ่งเงินรางวัล 28,045 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 869,395 บาท
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูลนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า การคว้าแชมป์ในครั้งนี้ของ บาส กับปอป้อ สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเทฝึกซ้อมต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาและแก้ไขข้อบกพร่องที่ทำให้พ่ายแพ้และได้เพียงรองแชมป์จาก 2 รายการก่อนหน้านี้ที่ทั้งคู่ได้เข้าชิง กระทั่งมาประสบความสำเร็จในวันนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมนับเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักกีฬาทุกคนและเป็นของขวัญวันครอบครัวที่ให้ความสุขแก่คนไทยอย่างน่าชื่นชม
"การคว้าแชมป์ได้สำเร็จ เชื่อว่านับจากนี้ทั้งคู่จะมีความมั่นใจมากขึ้นและขอให้รักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ให้สม่ำเสมอ จะคว้าแชมป์ได้อย่างต่อเนื่องเพราะปลดล็อกตัวเองได้แล้ว ความสำเร็จครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ "โค้ชโอม" เทศนา พันธ์วิศวาส และเอสซีจี อะคาเดมี่ที่ดูแลนักกีฬาทั้งคู่มาเป็นอย่างดี"
นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ กล่าวด้วยว่า จากผลงานที่ทำได้ในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีก่อนเข้าสู่การเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.นี้ และทั้ง บาส กับ ปอป้อจะเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชาติไทย ในการทำศึกแบดมินตันทีมผสมชิงแชมป์โลก "สุธีรมาน คัพ 2019" ระหว่างวันที่ 19-26 พ.ค.นี้ ที่เมืองหนานหนิง ประเทศจีน ที่ทีมชาติไทยอยู่ร่วมสายกับญี่ปุ่นและรัสเซีย ต่อไป