svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

ระทึก! ไฟไหม้หมู่บ้านเก่าแก่เมืองกาญจน์ วอดกว่า 10 หลัง

18 มีนาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กาญจนบุรี-ระทึก ไฟไหม้หมู่บ้านเก่าแก่เมืองกาญจน์ กลายเป็นทะเลเพลิง วอดกว่า 10 หลัง โชคดีขณะเกิดเหตุเป็นกลางวัน จึงไร้เจ็บ-ตาย ขณะที่บ้านต้นเพลิงเจ้าของไม่อยู่บ้านเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุได้ต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบอีกครั้ง

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 มี.ค.62 ร.ต.ท.จิรวัฒน์ ปลดเปลื้อง รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุไฟกำลังโหมลุกไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ภายในหมู่บ้านจงเจริญนิเวศน์ ต.ปากแพรก เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี อย่างรุนแรง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ไปถึงพบรถดับเพลิงจากเทศบาลต่างๆรวมกันกว่า 20 คันกำลังช่วยกันรำดมกำลังฉีดน้ำเพื่อสกัดเปลวเพลิง ไปตามบ้านเรือนหลังต่างๆที่กำลังถูกไฟไหม้ แต่เนื่องจากบ้านที่ถูกไฟไหม้นั้นเป็นบ้านไม้ที่มีสภาพเก่าอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับกระแสลมแรง เป็นเหตุทำให้เพลิงลุกลามไปไหม้บ้านเรือนที่อยู่ติดกันเสียหายไปกว่า 10 คูหา

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ รวมทั้งเพื่อนบ้าน และเจ้าหน้าที่ ต่างรีบช่วยกันขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินมีค่าออกมาจากภายในบ้านของแต่ละหลังกันอย่างฉุกละหุก โดยเฉพาะถังแก๊ส ที่มีอยู่เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการระเบิดขึ้นมา

โดยในครั้งนี้ พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ธีระพงษ์ ฤทธิ์จรูญผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรีนางเบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ได้เดินทางไปสั่งการด้วยตนเอง การเกิดไฟไหม้ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ แต่ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้ตลอดเวลาเนื่องจากเกรงว่าประกายไฟจะประทุลุกไหม้ขึ้นมาอีก

สำหรับบ้านต้นเพลิงเลขที่ 74 เป็นบ้านของนายพัลลภ นันตา อายุ 49 ปี พ่อค้าขายของอยู่ภายในตลาดสดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ขณะเกิดเหตุนายพัลลภ นั้นไม่อยู่บ้าน โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และเป็นผู้ที่นำถังดับเพลิงไปฉีดขณะเกิดเหตุครั้งแรกเล่าว่า เห็นกลุ่มควันและเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้นเปลวเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จากนั้นสายไฟฟ้าที่อยู่ใกล้กับหลังคาบ้านชั้นที่สองก็ถูกไฟลุกไหม้ และลามไปไหม้บ้านที่อยู่ติดกันอย่างรวดเร็ว ตนพยายามที่จะใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัดเอาไว้ แต่ไม่สามารถฉีดถึง เนื่องจากหลังคาและสายไฟนั้นอยู่สูงเกินกว่าที่จะฉีดสกัดได้

ทั้งนี้นางเบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากการถูกไฟไหม้กว่า 10 หลัง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้เกิดจากอะไร ส่วนรายชื่อของประชาชนที่ถูกไฟไหม้บ้าน อยู่ระหว่างการรวบรวม

ด้านพล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้เบื้องต้นยังไม่ทราบ ซึ่งจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาจรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง

logoline