svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

(คลิปข่าว) ออสเตรเลีย ยอมรับผิดกรณี "ฮาคีม" โบ้ยระบบไอทีโบราณ

19 กุมภาพันธ์ 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แม้จะได้รับการปล่อยตัวจากเมืองไทยและกลับไปเล่นฟุตบอลที่ออสเตรเลียแล้ว แต่กรณีของนายฮาคีม อัล-อาไรบี ผู้ลี้ภัยชาวบาห์เรนก็ยังไม่จบ โดยในวันนี้ตำรวจของออสเตรเลียได้ออกมาชี้แจงว่า การจับกุมฮาคีมเป็นความผิดของกระทรวงมหาดไทยที่ ล่าช้าในการยืนยันสถานะผู้ลี้ภัย ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลียโบ้ยว่าเกิดจากระบบไอทีที่ผ่านการใช้งานมานาน

แอนดรูว์ โคลวิน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติออสเตรเลียเข้าให้การต่อวุฒิสภาในกรุงแคนเบอราวันนี้ ชี้แจงถึงกรณีการจับกุมนายฮาคีมว่า ตำรวจไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลวีซ่าได้ และต้องพึ่งข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยเท่านั้นในการระบุว่า บุคคลตามหมายจับของตำรวจสากลมีสถานะผู้อพยพหรือไม่ แต่ปรากฎว่า กระทรวงมหาดไทยใช้เวลาในการยืนยันกลับมานานเกือบ 3 สัปดาห์ ซึ่งตอนนั้นฮาคีมได้ถูกทางการไทยจับกุมไปเรียบร้อยแล้วโคลวินกล่าวว่า อินเตอร์โพลออกหมายแดงตามคำขอของบาห์เรนเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน จากนั้นในวันต่อมาคือวันที่ 9 ตำรวจออสเตรเลียได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย จนกระทั่งวันที่ 27 ฮาคีมถูกจับที่ประเทศไทย และในวันที่ 28 ทางมหาดไทยจึงได้ชี้แจงถึงสถานะผู้ลี้ภัยกลับมา และมีการยกเลิกหมายแดงภายใน 24 ชั่วโมง

ด้านนายไมเคิล เอ้าแทรม หัวหน้าสำนักงานกิจการชายแดนและผู้อพยพ หรือ Australian Border Force ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยได้ออกมาชี้แจงในเวลาต่อมา โดยกล่าวขอโทษและยอมรับว่าเป็นความผิดของทางหน่วยงานที่ปล่อยให้ฮาคีมขึ้นเครื่องบินไปยังประเทศไทย อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถบอกได้ว่า ความผิดพลาดนี้เป็นเพียงสาเหตุเดียวที่ทำให้ฮาคีมถูกจับหรือไม่เอ้าแทรมอ้างว่า ทางหน่วยงานเข้าถึงหมายจับของฮาคีมเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน หรือ 13 วันหลังมีการออกหมายจับ ซึ่งยังคงเป็นไปตามมาตรฐาน 14 วัน เนื่องจากในแต่ละเดือนทางสำนักงานได้รับข้อมูลหมายจับเฉลี่ยถึง 600 ราย แต่ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าฮาคีมมีสถานะเป็นผู้อพยพ กลับลืมส่งอีเมลไปยังตำรวจ เลยทำให้เกิดเป็นเรื่องเป็นราวตามมา
อย่างไรก็ตาม เอ้าแทรมไม่ได้กล่าวโทษเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว และมองว่าน่าจะเป็นความผิดของระบบไอทีที่เป็น "มรดกตกทอด" จนปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังคงต้องใช้ระบบแมนนวลอยู่ ดังนั้น หากระบบไอทียังเป็นเช่นนี้ต่อไป ความผิดพลาดก็จะยังคงเกิดขึ้นอีก แม้จะไม่บ่อยก็ตาม

logoline