ทั้งนี้ตั้งแต่ดำเนินงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม2561 จนถึงปัจจุบันมีรูปแบบนวัตกรรมทางสังคมที่ผ่านการระดมความคิดเห็นจากตัวแทนเยาวชนทั่วประเทศที่ร่วมกันคัดเลือกจนเหลือ 5 โมเดล เพื่อนำไปสู่การใช้งานจริง 5 โมเดล ดังนี้
1. โมเดลตำบลส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนจึงได้กำหนดบทบาทของ อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยสนับสนุนให้ท้องถิ่นจัดทำแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในระดับท้องถิ่นให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติจัดสรรงบประมาณ เฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงในชุมชน ที่อาจส่งผลต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนเพื่อให้เกิดกลไกการพัฒนาร่วมกันอย่างแท้จริง
2. โมเดลหลักสูตรท้องถิ่นห้องเรียนชุมชนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน นอกห้องเรียนและเพื่อเปิดโอกาสให้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์การสร้าง"หลักสูตรท้องถิ่นห้องเรียนชุนชน" จึงควรได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกับ "ทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21" คือ ทักษะการทำงานเป็นทีมมีความคิดสร้างสรรค์จินตนาการ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การปรับใช้และการยืดหยุ่นเข้าใจความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและโลก รู้เท่าทันข้อมูลข่าวสาร มีความเป็นผู้นำการเป็นพลเมืองที่ดี
3. โมเดลศูนย์บ่มเพาะนวัตกรท้องถิ่นจัดตั้งพื้นที่แห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียน สร้างโอกาส ลดปัจจัยเสี่ยง มีส่วนในการรับผิดชอบคุณภาพชีวิตของชุมชนส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนรู้จักวางแผน มีความคิดสร้างสรรค์นำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมทางสังคมเพื่อจัดการแก้ไขปัญหาในชุมชนตลอดจนการลงมือทำจริงตามแผนที่วางไว้ โดยมีผู้ใหญ่คอยสนับสนุนช่วยเติมเต็มในระหว่างการทำงาน
4. โมเดลศูนย์ประสานงานเด็กและเยาวชนเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างเด็กและเยาวชนในพื้นที่กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเสนอแนะปัญหารวบรวมเครือข่ายเด็กและเยาวชนในพื้นที่ให้เป็นรูปธรรมสร้างกลไกการพัมนาเด็กและเยาวชนอย่างมีส่วนร่วม 5. โมเดลกองทุนคนรุ่นใหม่พัฒนาท้องถิ่น กองทุนดังกล่าวจะเป็นกองทุนน้องใหม่ที่น่าจับตาซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางสังคมของเด็กและเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรมการพัฒนากองทุนเพื่อให้แก่กลุ่มเด็กและเยาวชนตลอดจนผู้ทำงานด้านเด็กและเยาวชนในพื้นที่ในรูปแบบ "กองทุนคนรุ่นใหม่พัฒนาท้องถิ่น"
อย่างไรก็ตามโมเดลดังกล่าวจะนำไปใช้ในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ "SIY"กว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ได้เลือกโมเดลนวัตกรรมทางตามสูตร 1+4 คือ โมเดลที่ 1ซึ่งจะเป็นโมเดลแกนกลางที่จะนำไปใช้ในทุกชุมชน และโมเดล ที่ 2 - 5จะได้รับการเลือกนำไปทดลองใช้ตามความต้องการชุมชนนั้นๆ โดยจะมีการติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงานเป็นระยะเพื่อสรุปผลการดำเนินงาน ศึกษาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทางสังคมรวมถึงการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ตั้งเป้าให้ท้องถิ่นที่ร่วมโครงการฯบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนงานที่วางไว้ ภายในเดือนกันยายน 2562