ล่าสุด เมื่อวานนี้ น.ส.จุฑารัตน์ ได้ขอลาคุณครูไปทำบุญวันเกิดที่วัด และไปกราบไหว้เจ้าพ่อมเหศักดิ์ ศาลหลักเมือง บริเวณเกาะกลางบึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด เป็นที่พึ่งทางใจ และภาวนาให้แม่ ปลอดภัยที่ต้องอยู่ในคุกเป็นเวลา 4 เดือน ตามคำพิพากษาศาลฎีกา จากคดีนายทุนเงินกู้นอกระบบ ฟ้องร้องข้อหาร่วมกับพวกอีก 2 คน บุกรุกที่ดินที่เจ้าของที่ดิน นำไปจำนองแต่นายทุนทำนิติกรรมอำพราง และยึดที่ดินทำ แต่เจ้าของที่ยังเข้าใจว่ามีกรรมสิทธิ์ เมื่อเข้าไปทำนานายทุนแจ้งตำรวจจับข้อหาบุกรุก ซึ่งในวันนั้น มีภาพถ่ายนางธีรวรรณ ซึ่งไปเยี่ยมเพื่อน ตำรวจจึงจับกุมและส่งฟ้องศาล ทั้งๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกที่ดินดังกล่าว แต่อย่างไรน.ส.จุฑารัตน์ บอกว่า การที่แม่อยู่ในคุกกระทบกับเธอ เพราะแม่คือเสาหลักหาเลี้ยงลูก 3 คน คือพี่สาวคนโต เรียนอยู่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ที่ทำงานส่งตัวเองเรียนไปด้วย นอกจากนั้น พี่ชายคนโต พิการทางการได้ยิน ที่เรียนจบแค่ ม.3 ก็ต้องออกมาหางานทำรับจ้างร้านก๋วยเตี๋ยวได้ค่าแรงแค่วันละ 100 บาท เพื่อประทังชีวิต ในขณะที่เธอแม่ให้เงินวันละ 100 บาท ทั้งค่าหอพัก ค่าเทอม หากหาทางช่วยแม่ ออกมาไม่ได้ ก็คงต้องยุติการเรียน หรือพักไว้ชั่วคราว ทั้งที่ปีนี้เป็นปีสุดท้าย จะจบ ม.6 และได้โควตามหาวิทยาลัยคณะบริหารสาขาการจัดการท่องเที่ยวที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย วันที่ 7 ก.พ.นี้จะต้องจ่ายเงินค่าเรียน 6,000 บาท เมื่อไม่มีเงินจ่ายเพราะแม่ติดคุก ทุกอย่างก็คงถือว่าจบ