svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

"ยางพารา" ในสต๊อก ขาดบัญชีกว่า 2.5 ล้าน กก.

ผลการตรวจสอบสต๊อกยางพาราภายชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง พบสินค้ายางพารา ขาดบัญชี จำนวน 2,509,873 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน 129,660,088 บาท เผยยอดหนี้ที่ขายยางบริษัทต่างๆจำนวน 8 แห่ง เป็นเงิน 105,806,429 บาท

ตามที่นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจนับสินค้า (ยางพารา) คงเหลือของชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่ชัดเจนที่เกิดขึ้นภายในชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการซื้อขายยางของสมาชิกกับตลาดกลางยางพารา และกับบริษัทต่างๆ แต่ต่อมากลับพบว่านางนิตรดา อาจเส็ม อดีตผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ร่วมกับพวก ได้ทำการทุจริตลักลอบนำยางในสต๊อกของชุมนุม และยางของสมาชิกชุมนุมที่นำมาฝากขายไปขายให้กับบริษัทนอมินีที่อดีตผู้จัดการร่วมกับบุคคลใกล้ชิดไปแอบจดทะเบียนจัดตั้ง และบริษัทอื่นๆ ทำชุมนุมสหกรณ์ตรังเสียหาย ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก กระทบสหกรณ์สมาชิกที่นำยางมาฝากขาย โดยการทุจริตดังกล่าวกระทำมายาวนาน โดยหน่วยงานกำกับ , และตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ไม่เคยตรวจพบความผิดปกติดังกล่าว เนื่องจากอดีตผู้จัดการมีการเปลี่ยนแปลงเอกสารตกแต่งบัญชีมาโดยตลอด จนสร้างความเสียหายให้ชุมนุมสหกรณ์เป็นอย่างมาก

ล่าสุด สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ตรังได้แจ้งผลการตรวจสอบนับยางคงเหลือของชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง จำกัด เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ปรากฏว่ามียางพาราคงเหลือตรวจนับได้จำนวน 199,397 กิโลกรัม จากการตรวจสอบรายการซื้อ ขายสินค้า ยางพารา) ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2560 -15 พฤศจิกายน 2561 เพื่อกระทบยอดสินค้าคงเหลือ ปรากฏว่าสินค้ายางพาราคงเหลือ ควรมียอดคงเหลือ จำนวน 2,258,778 กิโลกรัม มีสินค้ายางพาราฝากขายอีก จำนวน450,493 กิโลกรัม รวมเป็นยางคงเหลือทั้งสิ้น 2,709,271 กิโลกรัม แต่จากการตรวจนับมียางพาราเพียงจำนวน 199,397 กิโลกรัม ทำให้มีสินค้ายางพารา ขาดบัญชี จำนวน 2,509,873 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน 129,660,088 บาท (ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ51.66 บาท เป็นราคาขายเฉลี่ยระหว่างวันที่1เมษายน2560 15 พฤศจิกายน 2561
ส่วนยอดหนี้ที่ขายยางกับบริษัทต่างๆจำนวน8แห่ง เป็นเงิน 105,806,429 บาท ทางผู้สอบบัญชีได้ทำหนังสือขอคำยืนยันยอดจากบริษัทดังกล่าว ปรากฎว่าส่วนใหญ่ไม่ยอมให้ความร่วมมือตอบกลับ ขณะที่บางแห่งยอดไม่ถูกต้อง และบางแห่งปฏิเสธหนี้ ทั้งนี้ บริษัทที่ปฏิเสธหนี้ คือ บริษัท ชัยเสรี รับเบอร์ อันดัสทรี จำกัด จำนวนเงิน144,000บาท ,บริษัท ที่แจ้งยอดไม่ถูกต้อง / ไม่ตรงกัน คือ บริษัท อภิชาตการยาง2018 จำนวนเงิน 84,820,851 บาท , บริษัทที่แจ้งยอดถูกต้องตรงกันมีเพียงบริษัทเดียวคือ บริษัท ทองไทยรับเบอร์ จำกัด จำนวนเงิน679,995บาท ส่วนบริษัทที่ไม่ให้ความร่วมมือตอบกลับมา มีจำนวน5บริษัท ประกอบด้วย1.บริษัท เอเชีย รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำนวน14,797,338บาท,2.บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) สาขาตรัง จำนวน2,184,409บาท,3.บริษัท วานาเดียม อินเตอร์พาร์ท จำนวน 853,290 บาท,4.บริษัท สยามยูไนเต็ดรับเบอร์ จำกัด จำนวน18,663บาท และ5. JINGHONG HONGHAI TRADE CO.,LTI จำนวน 2,307,881 บาท


นอกจากนั้นการยืนยันรายการเคลื่อนไหว ทางฝ่ายสอบบัญชีได้ทำการขอรายละเอียดการซื้อ ขายกับบุคคลอื่น และนิติบุคคลอื่นที่ทำรายการซื้อ ขายกับชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง จำกัด ตั้งแต่วันที่1เมษายน2560 -วันที่15พฤศจิกายน2561จำนวน103แห่ง ปัจจุบันได้รับคำตอบเพียง จำนวน31แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง อย่างไรผลของการตรวจสอบบัญชีดังกล่าว ทำให้ยังไม่แล้วเสร็จ โดยขณะนี้ทางจังหวัดตรังได้ขยายเวลาการตรวจสอบบัญชีออกไปอีก 30วัน เพื่อให้ฝ่ายสอบบัญชี และเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เร่งทำการตรวจสอบด้วย
ส่วนทางด้านนางสาวนิตรดา อาจเส็ม อดีตผู้จัดการนั้น ซึ่งถูกชุมนุมสหกรณ์แจ้งความดำเนินคดี ขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรัง ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร (ตั๋วสัญญาใช้เงินปลอม) และร่วมกันฉ้อโกงและลักทรัพย์ชุมนุมสหกรณ์ ทำให้ชุมนุมได้รับความเสียหายประมาณ197ล้านบาท โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว