svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

พญาเสือตรวจยึดโฮมสเตย์รุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว

19 มกราคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หน่วยพญาเสือ ตรวจสอบพื้นที่บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง การใช้ประโยชน์ที่ดินทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว พบผิดเงื่อนไขครม.30มิ.ย.2541 นำที่เกษตรเปลี่ยนเป็นรีสอร์ท

หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) ปฏิบัติงานทวงคืนผืนป่าระหว่างวันที่ 18-22 มกราคม 2562 ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า(ขสป.)เชียงดาว อุทยานแห่งชาติ(อช.)ดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ โดยปฏิบัติการร่วมระหว่างหน่วยพญาเสือ ขสป.เชียงดาว อช.ดอยสุเทพ ปุย ฝ่ายปกครอง อ.เชียงดาว ฉก.ม.5 ร.7 พัน 2 ค่ายพิชิตปรีชากร สปป.ที่3 ภาคเหนือ อช.ผาแดงโดยมีภารกิจ ตรวจสอบพื้นที่บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง การใช้ประโยชน์ที่ดินทำรีสอร์ท/โฮมสเตย์ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวซึ่งรีสอร์ท/โฮมสเตย์เป้าหมายในการตรวจสอบในครั้งนี้ ได้ดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงไว้เมื่อปี พ.ศ.2559 หากตรวจสอบแล้วปรากฏพบว่า ได้กระทำผิดข้อตกลง จะดำเนินการตรวจยึด/จับกุมทันที

พญาเสือตรวจยึดโฮมสเตย์รุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว

พนัชกร โพธิบัณฑิต รักษาการตำแหน่งหัวหน้าหน่วยฯพญาเสือ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว นำโดยนายประกาศิต ระวิวรรณ ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ รวมทั้งตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ในที่ดินบริเวณ หมู่ที่ 5 ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวและอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว จำนวน 8 ราย

ผลการตรวจสอบดังนี้
1. พื้นที่ที่เข้าดำเนินการตรวจสอบจำนวน 7 ราย พบมีการปลูกสร้างอาคาร บ้านพัก ลักษณะบ้านพักตากอากาศ/รีสอร์ท และมีการประกอบกิจการเชิงธุรกิจอย่างชัดเจน
2. รีสอร์ท จำนวน 2 แห่ง คือ วิลล่า เดอ วิล และ บ้านสวนริมธาร นำสำเนาหนังสือรับรองการทำประโยชน์มาแสดง ซึ่งคณะพนักงานเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบว่าออกมาโดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่
3. รีสอร์ท 6 แห่ง คือ ได้แก่ มาลีบังกะโล เชียงดาวเนส 1 บ้านสวนบุพผา บ้านพักตากอากาศอาจารย์มนัส บ้านดินเชียงดาว ม่อนผ่อดอย ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ มาแสดง แต่เป็นพื้นที่แจ้งครอบครองการทำประโยชน์ในที่ดินแปลงสำรวจ ถือครองเพื่อรอการพิสูจน์ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 30 มิถุนายน 2541 ปัจจุบันพบว่าได้เปลี่ยนแปลงผู้ครอบครอง ซึ่งในพื้นที่ตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 ผู้แจ้งการครอบครองสามารถอยู่อาศัยทำกิน แต่มอบการครอบครองและการทำประโยชน์ในที่ดินนั้นให้แก่บุคคลอื่นไม่ได้ การโอนสิทธ์หรือซื้อขายหรือการยินยอมให้ผู้อื่นครอบครองทำประโยชน์ ถือว่าผู้ครอบครองเจตนาสละการครอบครอง
4. กระทำของเจ้าของรีสอร์ท ทั้ง 5 รายและบ้านพักตากอากาศ 1 แห่ง ผิดเงื่อนไขการนำพื้นที่ที่ได้รับการผ่อนปรนตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 ให้อยู่อาศัยทำกินไปเพื่อปลูกสร้างบ้านพัก ลักษณะตากอากาศเป็นการดำเนินการในลักษณะนายทุน ไม่ใช่ผู้ยากไร้ ซึ่งไม่มีระเบียบแนวทางปฏิบัติการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ ตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 ที่จะผ่อนผันให้ราษฎรแจ้งการครอบครองทำประโยชน์ในลักษณะบ้านพักตากอากาศในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้
5. คณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้ว จึงได้ลงความเห็นว่า การกระทำการข้างต้นเป็นการยึดถือครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างลักษณะบ้านพักตากอากาศผิดปกติวิสัยของราษฎรทั่วไป เป็นการเปลี่ยนแปลงการทำประโยชน์ที่ดิน และผิดปกติเงื่อนไขตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 ไม่อยู่ในสถานะผู้ยากไร้ที่จะผ่อนปรนให้อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้ ผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และเป็นการขยายพื้นที่ทำกินเพิ่มเติม เป็นการกระทบกระเทือนต่อการรักษาป่าหรือสิ่งแวดล้อม จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 เป็นการกระทำผิดหลักเกณฑ์การแจ้งครอบครองที่ดินเพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจยึดรีสอร์ทดังกล่าวต่อไป

logoline