ญี่ปุ่นเฉือนอุซเบฯ2-1คว้าแชมป์กลุ่มศึกเอเชียนคัพ

ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นัดสุดท้ายของกลุ่มเอฟ ญี่ปุ่น พบกับ อุซเบกิสถาน

ครึ่งแรก เป็น อุซเบกิสถาน ที่ออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 40 จากจังหวะที่ ดอสทอนเบ็ค คัมดามอฟ ไหลบอลให้ เอลดอร์ โชมูโรดอฟ ยิงเข้าไป
แต่หลังจากนั้นแค่ 3 นาที ญี่ปุ่นก็ตามตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว เซอิ มุโรยะ เปิดบอลมาให้ โยชิโนริ มูโตะ ยิงตุงตาข่าย จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
ครึ่งหลัง นาทีที่ 58 ญี่ปุ่นพลิกขึ้นนำได้สำเร็จ จากการยิงของ สึกาสะ ชิโอตานิ 
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างสนุก แต่สุดท้ายก็ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ญี่ปุ่น เฉือนชนะ อุซเบกิสถาน ไป 2-1 คว้าแชมป์กลุ่มเอฟพร้อมกับผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ ซาอุดิอาระเบีย ส่วน อุซเบกิสถาน คว้ารองแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้ารอบไปพบกับ ออสเตรเลีย

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน โอมาน พบกับ เติร์กเมนิสถาน โดยทั้งสองทีมต่างก็ต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นคว้าอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 1 ใน 4 ทีม
ครึ่งแรก นาทีที่ 20 โอมาน ขึ้นนำก่อน จากฟรีคิกระยะ 25 หลาของ อาเหม็ด อัล มาไฮจ์รี่ บอลโค้งข้ามกำแพงเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 42 เติร์กเมนิสถาน ตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่ อัลติไมรัต อันนาดูดิเยฟ หลุดเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนยิงเข้าไป และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง นาทีที่ 84 โอมาน ขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ อาเหม็ด อัล มาไฮจ์รี่ เปิดมาหน้าประตูให้ มูห์เซน อัล กาซซานี่ ยิงจ่อๆเข้าไปให้ โอมาน นำ 2-1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โอมาน มาได้อีกหนึ่งประตูจากการโหม่งของ โมฮัมเหม็ด อัล โมซาลามี่ โหม่งเต็มศรีษะเข้าไป จบเกม โอมาน ชนะ เติร์กเมนิสถาน 3-1 คว้าอันดับ 3 ของกลุ่มพร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ อิหร่าน ส่วน เติร์กมิเมนิสถาน แพ้ 3 เกมรวด ตกรอบแรก

ต่อกันที่กลุ่มอี กาตาร์ พบกับ ซาอุดิอาระเบีย
ครึ่งแรก นาทีที่ 41 กาตาร์ได้โอกาสก่อนจากจังหวะที่ อัลโมเอซ อาลี ถูก อาลี ฮาดี้ อัลบูเลฮี ทำฟาล์วในเขตโทษ แต่ ฮัซซัน อัล เฮย์ดอส กลับยิงจุดโทษไปถูกนายทวารซาอุฯเซฟไว้ได้
อย่างไรก็ตามในช่วงทดเจ็บ กาตาร์ก็ขึ้นนำจนได้ จากผลงานของ อัลโมเอซ อาลี และเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก
ครึ่งหลัง นาทีที่ 80 กาตาร์มาได้ประตูย้ำชัยชนะในนาทีที่ 80 จากการโหม่งของ อัลโมเอซ อาลี เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ ครบ 90 นาที กาตาร์ ชนะไป 2-0 คว้าแชมป์กลุ่มพร้อมกับผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ อิรัก ส่วน ซาอุฯ ได้รองแชมป์กลุ่ม เข้ารอบไปเจอกับ ญี่ปุ่น
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เลบานอน พบกับ เกาหลีเหนือ
เริ่มเกมได้แค่ 9 นาที เกาหลีเหนือก็ขึ้นนำไปก่อน จากฟรีคิกของ ปัก ควาง รยอง
แต่เลบานอนก็ตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 27 จากผลงานของ จอร์จ เมลกี้ จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
ครึ่งหลัง นาทีที่ 65 เลบานอนพลิกขึ้นนำเป็น 2-1 จาก ฮิลาล อัลเฮลวี่
นาทีที่ 80 เลบานอนมาได้ประตูที่ 3 จากจังหวะที่ คิม โชล บอม ไปทำฟาล์ว โรบิน อตาย่า ในเขตโทษ และเป็น ฮัสซัน มาตุ๊ก ที่สังหารจุดโทษเข้าไปให้ เลบานอน นำ 3-1
ช่วงทดเจ็บ เลบานอนมาได้ประตูย้ำชัยชนะ จาก ฮิลาล อัลเฮลวี่ จบเกม เลบานอน ชนะไป 4-1 คว้าอันดับ 3 ของกลุ่ม แต่ก็ต้องตกรอบเนื่องจากเมื่อวัดอันดับ 3 กับทุกกลุ่มแล้ว เลบานอนมีแต้ม-ผลต่างประตูได้เสีย และประตูที่ยิงได้เท่ากับเวียดนามทั้งหมด ทำให้ต้องมาวัดที่กฎแฟร์เพลย์ ซึ่งเวียดนาม ได้ใบเหลือง 5 ใบ น้อยกว่า เลบานอน ที่ได้ไป 7 ใบ ทำให้ เลบานอนตกรอบแรกอย่างน่าเสียดาย ส่วนเวียดนามจะเข้าไปพบกับ จอร์แดน ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป