svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

16 มกราคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

" ความสำคัญของผลกระทบต่อส่งแวดล้อม ด้านปัญหามลพิษในอากาศ ที่เกิดจากการเผาไหม้ของกิจกรรมต่างๆ การกระจายของฝุ่นละออง บริษัท อินทรี อีโคไซเคิล จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง ผู้ให้บริการด้านการจัดการกากของเสีย และการบริการภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ร่วมมือกับ กรมศุลกากร ทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและของกลางอื่นๆ ด้วยขั้นตอนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อมลพิษ และเกิดการหมุนเวียนของทรัพยากรอย่างยั่งยืน "

ปกครอง มีจินดา Head of Commercial บริษัท อินทรี อีโคไซเคิล จำกัด เผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า อินทรี อีโคไซเคิล ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการการจัดการกากของเสียอย่างครบวงจร โดยการนำของเสียจากวงจรการผลิตหนึ่งกลับมาใช้ผลิต และแปรสภาพให้กลายเป็นเชื้อเพลิง สำหรับอีกกระบวนการผลิตหนึ่ง เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน พร้อมเป็นพันธมิตรกับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้มีความปลอดภัย สำหรับความร่วมมือกับกรมศุลกากร ในการทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและของกลางอื่นๆ ที่คดีถึงที่สุดแล้วในครั้งนี้  อินทรี อีโคไซเคิล ได้ประสานงานกับฝ่ายเก็บรักษา และจำหน่ายของกลาง สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร รับผิดชอบในการทำลายของกลางดังกล่าว อาทิ เสื้อผ้า ผ้าห่ม ตุ๊กตา รองเท้า กระเป๋า เป็นต้น  รวมน้ำหนัก 300 ตัน หรือคิดเป็น 300,000 กิโลกรัม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
สำหรับขั้นตอนการเปลี่ยนของกลางสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเชื้อเพลิงทดแทน ทางอินทรี อีโคไซเคิล จะนำของกลาง ขนส่งผ่านรถขนส่ง ซึ่งมีระบบ GPS ติดตามตลอดเวลา เพื่อนำไปผ่านกระบวนการคัดแยกประเภท ตัด บด ย่อยและควบคุมคุณภาพก่อนที่โรงเตรียมเชื้อเพลิงและวัตถุดิบทดแทน (AFR Platform) จังหวัดสระบุรี จากนั้นจะนำไปเผาร่วมกับเชื้อเพลิงหลัก ที่เตาเผาปูนซีเมนต์ โดยของกลางสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวจะถูกเผาด้วยอุณภูมิสูงกว่า 1,800 องศาเซลเซียส ในระบบปิด จึงไม่มีการปล่อยสารก่อมะเร็ง เช่น ไดอ็อกซิน และเถ้าลอยออกสู่อากาศ ซึ่งเป็นวิธีการจัดการของเสียหรือกากอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน           ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชุมชนและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด  ทั้งยังเป็นการลดของเสีย หรือกากอุตสาหกรรมสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) อีกด้วย ทั้งนี้ กระบวนการทุกขั้นตอนในโรงงาน จะมีกล้องวงจรปิด ระบบ RFID ในการติดตามรถขนส่งภายในโรงงาน และหน่วยงานรักษาความปลอดภัย เพื่อควบคุมในระดับสูงสุด โดยมีกำหนดระยะเวลาทำลายในกรอบเวลาไม่เกิน 15 วัน โดยจะทำลายให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคมนี้

logoline