เผยช่องโหว่สหรัฐ ให้เจ้าสาวอายุน้อยเข้าประเทศหลายพัน

ไนล่า อามิน วัย 29 ปี ถูกบังคับให้แต่งงานขณะมีอายุ 13 ปีในปากีสถาน และเป็นผู้ยื่นเอกสารให้สามีวัย 26 ปีที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอสามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้ เธอเล่าว่าถูกขืนใจทุกวัน และถูกปฏิบัติจากสามีเหมือนเธอเป็นทาส รวมทั้งยอมรับว่า เคยดื่มน้ำยาซักผ้าเพื่อฆ่าตัวตาย เธอบอกด้วยว่า เธอเป็นเหมือนตั๋วล็อตเตอรีที่ช่วยให้เขาได้ออกจากปากีสถาน แต่คำร้องของเธอที่ขออนุญาตพาสามีเข้าสหรัฐเป็นอันสิ้นสุดหลังเธอหนีไปจากเขา
จากข้อมูลของทางการที่คณะกรรมการความมั่นคงภายในของวุฒิสภาสหรัฐเรียกร้องให้เปิดเผยและถูกรวบรวมเป็นรายงานระบุว่า มีการอนุมัติ 5,556 กรณีที่ร้องขอเพื่อพาคู่สมรสหรือคู่หมั้นที่เป็นผู้เยาว์เข้าสหรัฐ และอีก 2,926 กรณีที่ผู้เยาว์ยื่นเรื่้องให้คู่สมรสหรือคู่หมั้นอายุมากกว่าเข้าประเทศจากจำนวนผู้ยื่้นคำร้องทั้งหมด 4.3 ล้านคนในช่วงปีงบประมาณ 2550-2560
กรณีเหล่านี้ได้รับอนุญาตเนื่องจากกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองและการให้สัญชาติไม่ได้กำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ร้องขอ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติจะพิจารณาคำร้องของคู่สมรสหรือคู่หมั้น โดยดูว่าการแต่งงานนั้นถูกกฎหมายในประเทศต้นทางหรือไม่ และการแต่งงานถูกต้องตามกฎหมายของรัฐที่ผู้ยื่นคำร้องอาศัยหรือไม่ แต่จากข้อมูลที่พบทำให้เกิดคำถามว่า ระบบตรวจคนเข้าเมืองนี้เอื้อให้เกิดการบังคับแต่งงานกับผู้เยาว์หรือไม่
วุฒิสมาชิก รอน จอห์นสันจากพรรครีพับลิกัน บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องอุดช่องโหว่ของกฎหมาย และยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐมีนโยบายเพื่อป้องกันการแต่งงานของผู้เยาว์และการบังคับแต่งงาน