svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กนง.มีมติ 5:2 ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 1.75%

19 ธันวาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งที่ 8/2561 คณะกรรมการมีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปีจาก 1.50% เป็น 1.75% ต่อปีโดยให้มีผลทันที ขณะที่ 2 เสียงเห็นควรให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5 % ต่อปี

ในการตัดสินนโยบายคณะกรรมการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามแรงของอุปสงค์ในประเทศแม้อุปสงค์ต่างประเทศจะชะลอลงอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจเสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดีแต่ต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสะสมความเพราะบางในระบบการเงินได้ในอนาคต

คณะกรรมการเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องเป็นเวลานานในช่วงที่ผ่านมามีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพและกรอบเป้าหมายของเงินเฟ้อคณะกรรมการส่วนใหญ่จึงเห็นว่าความจำเป็นในการพึ่งพานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับที่ผ่านมารถน้อยลง และเห็นควรให้ปรับขึ้นนโยบายดอกเบี้ยในครั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินรวมทั้งเพื่อสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินสำหรับอนาคต

กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับที่ร้อยละ 1.75 ยังเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องส่วนกรรมการ 2 ท่านเห็นว่าปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากต่างประเทศปรับสูงขึ้น และอาจส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปจึงควรรอประเมินความชัดเจนของผลกระทบจากปัจจัยภายนอก และความยั่งยืนของแรงส่งจากวัดใจเศรษฐกิจในประเทศไปอีกระยะหนึ่งก่อนประกอบกับมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินที่ดำเนินไปดูแลความเสี่ยงด้านสภาพการเงินในบางไปบ้างแล้ว

เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพแม้การส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนการท่องเที่ยวชะลอลงโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนแต่เริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น และแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่องการบริโภคภาคประชาชนยังมีแนวโน้มขยายตัวตามรายได้ครัวเรือนนอกภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น และกระจายตัวมากขึ้นรวมทั้งได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐเพิ่มเติม แม้รายได้ครัวเรือนภาคเกษตรลดลงบ้าง และยังมีแรงกดดันจากหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงสำหรับการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวตามการย้ายฐานการผลิตมายังไทย และโครงการร่วมลงทุนของรัฐและเอกชนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน

ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้จากเดิมความล่าช้าในการลงทุนของรัฐวิสาหกิจบางแห่งคณะกรรมการจะติดตามความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจจะกระทบต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีมีแนวโน้มทรงตัวแต่มีความเสี่ยงด้านต่ำจากความผันผวนของราคาพลังงานและราคาอาหารสดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ที่ปรับสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปทั้งนี้คณะกรรมการเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง อาทิ ผลกระทบจากการขยายตัวของธุรกิจ e-commerce การแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้นรวมถึงพัฒนาการการเทคโนโลยีที่ทำให้ต้นทุนของการผลิตลดลงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้ช้ากว่าในอดีต

ภาวะการเงินที่ผ่านมาอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำทำให้ภาคเอกชนสามารถระดมทุนได้อย่างต่อเนื่องโดยสินเชื่อขยายตัวทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่ออุปโภคบริโภค คณะกรรมการฯ ประเมินว่าแม้ว่าดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นร้อยละ 0.25 ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับเงินสกุลภูมิภาคในระยะข้างหน้าอัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มผันผวนคณะกรรมการจึงเห็นควรให้ติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป

ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพแต่ยังอยู่แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสร้างความเปราะบางให้ศักยภาพระบบการเงินได้ในอนาคต โดยเฉพาะพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน ซึ่งอาจนำไปสู่การประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร คณะกรรมการฯ เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้จะช่วยลดการสะสมความเปราะบางในระบบการเงินควบคู่กับมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินที่ได้ดำเนินไป

มองไปข้างหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้แรงส่งจากอุปสงค์ต่างประเทศจะชะลอลง คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะมีความเหมาะสมในระยะข้างหน้า โดยจะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจอัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงินรวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่างๆอย่างใกล้ชิดเพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมในระยะต่อไป

logoline