โดยเธอเปิดเผยว่าแม้จะไม่ได้เข้าประกวดในปีนี้แต่เธอดีใจที่ได้รับการดูแลจากเจ้าภาพเป็นอย่างดี
มารี เอสเธอร์ บันกุรา สาวงามจากประเทศเซียร์ราลีโอน ได้ให้สัมสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนชาวไทยก่อนเริ่มกิจกรรมการประกวดชุดประจำชาติ มิสยูนิเวิร์ส 2018 เกิดขึ้นพร้อมกับคุณปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก กรรมการบริหาร บริษัท TPN 2018 ว่า "เธอดีใจมากที่ได้มาเมืองไทย รู้สึกดียินที่ได้เป็นตัวแทนประเทศของตัวเอง ได้มาร่วมเชียร์เพื่อน ๆ สาวงาม ดีใจที่ได้มาเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีไทย และที่สำคัญคนไทยนั้นเป็นคนที่น่าชื่นชมมาก ๆ"
นอกจากนี้คุณปุ้ย ปิยาภรณ์ เปิดเผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีของ มารี เอสเธอร์ ที่ต้องโดนตัดสิทธิ์เข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ว่า เนื่องจากเธอเดินทางมาถึงกองประกวดล่าช้ากว่าที่กำหนด และด้วยกฏระเบียบของกติกา จึงไม่สามารถทำให้เธอขึ้นร่วมการประกวดกับเพื่อนๆได้ ซึ่งสาเหตุที่เธอมาล่าช้าเพราะประเทศของเธอมีสงคราม ไม่มีสถานทูตรองรับ อีกทั้งมีการเดินทางที่ยากลำบาก แต่เมื่อเธอเดินทางมาถึงประเทศไทยทางเรายินดีต้อนรับพร้อมดูแลเธออย่างดี
สำหรับประเทศเซียร์ราลีโอน ซึ่งอยู่ในทวีปแอฟริกาตะวันตก เพิ่งมีการจัดการประกวดมิสเซียร์ราลีโอน ครั้งแรกในปี 2017 โดย "มารี เอสเธอร์ บันกุรา" ถือว่าเป็นนางงามคนที่ 3 ที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าว และเป็นคนที่ 2 ที่ได้สิทธิ์ร่วมประกวดเวทีระดับนานาชาติ
และหลังจาก"มารี เอสเธอร์ บันกุรา"รับตำแหน่ง เธอมีอาชีพเป็นนางแบบ และเริ่มต้นวางแผนการเดินทางเข้ามาร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ ประเทศไทยทันที เพราะรู้ดีว่าขั้นตอนต่างๆ นั้นไม่ง่าย ทั้งด้วยเหตุผล เกี่ยวกับระยะเวลาที่กระชั้นชิด เพราะเธอเพิ่งจะได้รับตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมานี้เอง รวมถึงปัญหาภายในประเทศ ที่เพิ่งจะผ่านสงครามการเมืองที่มียาวนานมาหลายปี
และที่สำคัญก็คือที่ประเทศเซียร์ราลีโอนนั้นไม่มีสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอยู่ให้เธอขอวีซ่านั่นเอง
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนั้น ทำให้มารี เอสเธอร์ บันกุรา วางแผนที่จะบินไปยังประเทศที่มีสถานทูตไทยประจำอยู่ แต่ปรากฏว่าเที่ยวบินที่จะบินออกนกประเทศซึ่งมีน้อยอยู่แล้วกลับเกิดปัญหาจนต้องยกเลิกเที่ยวบินที่เธอวางแผนเอาไว้
สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจขนสัมภาระที่มีกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าสะพายอย่างละใบเพื่อนเดินทางมาร่วมงานประกวดในครั้งนี้ โดยเธอ เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาก่อนถูกแยกให้ไปพักโรงแรมต่างหาก