"ณัฐนิดา"ซิวแชมป์แคลคอมพ์-"สุวัจน์" ปลื้มช่วยพัฒนาเทนนิสไทย

การแข่งขันเทนนิสอาชีพหญิงไอทีเอฟ โปร เซอร์กิต รายการ "แคล-คอมพ์ แอนด์ เอ็กซ์วายซี พริ้นติ้งไอทีเอฟโปร เซอร์กิต ซีรีส์ 2018#W4"ชิงเงินรางวัลรวม 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 480,000 บาทรายการสุดท้ายของปีที่สนามเทนนิส ทรู อารีน่า หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ อาทิตย์ ที่ 9 ธันวาคม เป็นวันสุดท้าย

ในประเภทหญิงเดี่ยวรอบชิงชนะเลิศ "จูน" ณัฐนิดา หลวงแนม นักหวดหญิงไทย วัย 31 ปีเจ้าของดับเบิ้ลแชมป์สัปดาห์ที่แล้ว มือวางอันดับ 4 ของรายการ และมืออันดับ 615 ของโลกพบ อัลดิล่า ซูต์เจียดี้ นักหวดมือวางอันดับ 3 ของรายการ และมือ 616 ของโลก วัย 23 ปีจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเจ้าของเหรียญทองเทนนิส ประเภทคู่ผสม กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย


สำหรับคู่นี้เป็นการโคจรมาเจอกันอีกครั้งหลังพบกันในรอบชิงฯรายการนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งครั้งนั้น ณัฐนิดา ชนะซูต์เจียดี้ 2-1 เซต 6-1,3-6, 6-3ขณะที่ แมทช์นี้ต้องเลื่อนการแข่งขันจากวันเสาร์ที่8 เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องไม่สามารถแข่งขันต่อได้ กรรมการผู้ตัดสิน จึงได้เลื่อนมาแข่งขันกันต่อในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่9 หลังจากที่สกอร์เสมอกันอยู่ 1-1 เซต โดยเซตแรก ณัฐนิดา ชนะ 6-3 เซตสองซูต์เจียดี้ ชนะ 6-1

โดยในเซตตัดสิน ณัฐนิดา อาศัยการหวดท้ายคอร์ต เบรกได้ในเกมที่4 และ 6 ขึ้นแท่นนำ 5-1 ก่อนออกมาเสิร์ฟปิดเซต เอาชนะไป 6-1 สรุป ณัฐนิดา ชนะ 2-1เซต คือ6-3, 1-6 และ 6-1
ส่งให้ณัฐนิดา คว้าแชมป์หญิงเดี่ยวรายการที่ 3 ของปี และเป็นรายการที่ 12 ในการเล่นอาชีพนอกจากนี้ ยังได้รับเงินรางวัล 2,352 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 75,264 บาทพร้อมคะแนนสะสมอันดับโลก 12 คะแนน ส่วนรองแชมป์ รับเงินรางวัล 1,470 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 47,040 บาท และ คะแนนสะสม 7 คะแนน

ณัฐนิดา  กล่าวว่า สำหรับรายการนี้ พยายามเล่นไปทีละรอบ ไม่ได้คาดหวังอะไร เพื่อไม่ให้กดดันส่วนเกมนี้ตีหลุดเองในเซตที่ 2และคู่แข่งเปลี่ยนเกมจากครั้งก่อนที่เจอกันด้วยการตีดึงสูง แต่ก็พยายามกลับมาเอาชนะได้ในที่สุดทุกปีตั้งเป้าจะทำผลงานให้ดีแต่จะไม่กดดันตัวว่าจะต้องได้แชมป์ และเล่นให้มีความสุขเท่านั้นส่วนเป้าหมายปีหน้าคือการทำอันดับขึ้นไปติดท็อป 200 อย่างที่เคยทำได้เพื่อกลับไปเล่นรายการใหญ่ๆ อย่างดับเบิลยูทีเอ เพราะอยากไปเล่นกับคนเก่งๆ เพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป


ด้านพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ  อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์การจัดการแข่งขัน กล่าวว่า รายการนี้  เป็นรายการสุดท้ายของปี2018 ซึ่งมีทั้งหมด 9 รายการ รวมเงินรางวัลทั้งสิ้นประมาณ 140,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 4.6 ล้านบาท การแข่งขันที่จัดขึ้น เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาวงการเทนนิสไทยเอเชีย และโลก เพราะมีนักเทนนิสทั่วโลกจากทุกทวีปมาร่วมชิงชัยจำนวนมากและต้องขอบคุณผู้สนับสนุนทุกฝ่ายที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการจัดการแข่งขันครั้งนี้และประสบความสำเร็จในการพัฒนากีฬาเทนนิสไทย ส่วนปีหน้าก็จะมีรายการดีๆเช่นนี้ต่อไป