ปม "ความรักกับเศรษฐี"

ถูกสื่อถามว่าเรื่องนี้บั่นทอนจิตใจมั้ย แอฟตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า จะบอกว่าไม่บั่นทอนเลยคงไม่ได้ ที่อยู่ทุกวันนี้ พยายามให้ราบเรียบราบรื่น จะบอกไม่รู้สึกก็คงไม่ใช่กล่าวสำหรับ คนบันเทิงปลายปีดูเหมือนจะมีเรื่องรักๆ เลิกๆ ไล่มาตั้งแต่ดาราสาว "แอฟ" ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ได้ใบหย่าจากอดีตสามี "สงกรานต์ เตชะณรงค์" แล้วเปิดตัวกำลังคบหากับนางเอกวิกเดียวกัน อย่าง "แมท" ภีรนีย์ คงไทย กลายเป็นประเด็นดราม่าถูกเม้าท์ว่าไปรู้จักมักคุ้นกันตอนไหน

งานนี้ "สงกรานต์-แมท" ถูกถล่มจมดิน แม้ล่าสุดเห็นว่าสาวแมทโพสต์ข้อความผ่านไอจีโชว์ภาพถ่ายสวยๆ ฝีมือพระเอก "ณเดชน์ คูกิมิยะ" แต่ไม่วายมีคนจ้องต่อว่าอยู่ ส่วน "แอฟ" แม่ม่ายสาวลูกหนึ่ง ได้รับกำลังใจจากทั้งเพื่อนดาราและแฟนๆ อย่างล้นเหลือ

ความที่ "แอฟ" เป็นคนจิตใจดีเห็นใครกำลังตกอยู่ในภาวะที่เคยเป็นมาก่อน ก็อดไม่ได้ที่จะให้กำลังใจ กรณีล่าสุดของ "ต่าย" ชุติมา ทีปะนาถ ดาราสาวที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ที่กำลังมีปัญหาชีวิตกับสามี "ทิม" พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักธุรกิจ


(30พ.ย.) "ต่าย ชุติมา" น้ำตานองหน้า ชี้แจงสื่อว่า ทำหน้าที่แม่อย่างดีมีสำนึกในความเป็นแม่ ไม่ติดเที่ยวจนทิ้งลูก กำลังหาทางออกเพื่อลูก ไม่ตอบเรื่องโดนทำร้ายร่างกาย และไม่อยากหย่า

ประเด็นของ "แอฟ" กับ "ต่าย" เหมือนกันตรงที่ทั้งคู่เป็นดาราระดับ "นางเอก" และแต่งงานมีสามีมีฐานะร่ำรวยมีหน้ามีตาในสังคม และมีลูกเป็นพยานรักทั้งคู่


พูดถึง "ทิม พิธา" เป็นลูกชายของพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร จบไฮสคูลที่นิวซีแลนด์ กลับมาเรียนที่ธรรมศาสตร์ จบการเงินการธนาคาร ภาคภาษาอังกฤษ และดูแลกิจการต่อจากพ่อหลังเสียชีวิต


ว่ากันว่าเขามีความสามารถปลดหนี้ 100 กว่าล้านให้ธุรกิจของครอบครัว เมื่อเข้าไปบริหารบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด บริษัทผลิตผลิตผลทางการเกษตร ผู้ผลิตน้ำมันรำข้าวดิบและรำข้าวสกัดไขมัน ถือเป็นบริษัทผลิตน้ำมันรำข้าวดิบที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย และติดอันดับ 5 ของโลก

"พิธา" เคยเผยต่อสื่อเมื่อหลายปีก่อนว่า กำลังสร้างโรงงานผลิตสินค้าเตรียมงบ 90 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อเครื่องจักรผลิตสินค้าและทำการตลาดภายหลังจากวางแผนการดำเนินธุรกิจและพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องภายใต้งบลงทุน 500 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,300 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 12-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,100 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายน้ำมันรำข้าว 50% และกากรำสกัด 50% ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพและความงามในอนาคตนั้นยังไม่สามารถคาดการณ์ได้


กลับมาดูที่ "สงกรานต์" ยังรับราชการเป็นตำรวจยศ "ร.ต.อ." เป็นทายาทมหาเศรษฐีหมื่นล้าน "ไพวงษ์ เตชะณรงค์" เจ้าของโบนันซ่า เขาใหญ่ ซึ่ง "สงกรานต์" มีชื่อเป็นกรรมการบริหาร ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอสังหาฯ เช่น บ้าน โรงแรม ห้องชุด และเกี่ยวโยงกับธุรกิจท่องเที่ยว ประมาณ 5 บริษัท จากทั้งหมดราว 20 ธุรกิจ


ไม่ว่าเหตุผลของ "พิธา" จะเป็นเช่นไร แต่เชื่อว่าชีวิตคู่นับจากนี้จะประสานรักในรอยร้าวให้ไปได้หรือไม่ก็ต้องติดตามให้กำลังใจ ส่วน "สงกรานต์" ที่ยอมปล่อยให้ "แอฟ" เป็นอิสระทั้งพันธะเรื่องชีวิตและกฎหมายแล้ว การเป็น "พ่อม่าย" ลูกมหาเศรษฐีกำลังคั่วนางเอกสาวจะสำเร็จหรือเปล่า แต่เชื่อว่าไม่รอดมือแน่ๆ?

ถามว่ามีข้อสังเกตอะไรจาก "ความรัก" ระหว่าง "นางเอก" กับ "หนุ่มไฮโซ" ดีกรีเศรษฐีแล้ว อนุมานได้ไหมว่า หากชีวิตคู่จะยืดยาวต่างฝ่ายต่างต้องใช้ความอดทนสูง เพราะ "ภาระ" และ "หน้าตา" และมีคนพร้อมเข้ามาใหม่ในชีวิตของทั้งคู่จะเป็นตัวแปรอันเปราะบางอยู่เหมือนกัน


แต่สุดท้าย..เมื่อรักมันไปต่อไม่ได้ก็ต้องจบแบบสวยๆ โปรดคิดถึงผลกระทบต่อ "ลูกตัวน้อย" มากๆ เป็นการดีที่สุดในการแก้ปัญหา..!!