svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ทรัมป์อาจยกเลิกเจรจากับปูติน นอกรอบการประชุม G-20

28 พฤศจิกายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์อาจยกเลิกการเจรจากับปูตินนอกรอบการประชุม G-20 จาากการที่เกิดกรณีตึงเครียดยูเครน-รัสเซียบริเวณในช่องแคบเคิร์ช ซึ่งเป็นเส้นทางที่ออกสู่ทะเลดำ หลังจากที่ทางการสหรัฐจัดเตรียมการหารือไว้กับผู้นำญี่ปุ่น จีน รัสเซีย และเยอรมนี ไว้ด้วย

นอกจากนี้ ทรัมป์-สี จิ้นผิง เตรียมร่วมโต๊ะดินเนอร์วันเสาร์นี้ ท่ามกลางทั่วโลกจับตาถกประเด็นสงครามการค้า


ขณะที่ทรัมป์ซึ่งแสดงความไม่พอใจ GM ที่ประกาศปิดโรงงานในอเมริกาเหนือ รวมทั้งปลดพนักงาน 14,800 คน โดยอาจจะตัดเงินที่รัฐบาลเคยให้เงินอุดหนุนในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินของสหรัฐเมื่อปี 2008


1. ท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจยกเลิกการประชุมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน นอกรอบการประชุมสุดยอด G-20 ที่จะเปิดฉากที่กรุงบัวโนสไอเรส ของอาร์เจนตินา ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังจากที่เกิดเหตุเรือรัสเซียยิงเรือยูเครนและกักตัวลูกเรือไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


โดยประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ระหว่างรอรายงานฉบับเต็มเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางนักการเมืองฝ่ายยุโรปเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ต่อเหตุการณ์ที่รัสเซียได้โจมตีเรือยูเครน 3 ลำ พร้อมกับยึดเรือและลูกเรือเอาไว้


ขณะที่อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) กังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนในช่องแคบเคิร์ช


2. นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพิ่อประชุมหารือและรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ระหว่างเวทีประชุมสุดยอด G-20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ขณะที่ประชาคมโลกต่างจับตาการพบปะกันของ 2 ผู้นำโลกอย่างใกล้ชิด


โดยแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำสหรัฐคาดหวังว่าจะมองเห็นความคืบหน้าในถกประเด็นการค้ากับผู้นำจีน รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถบรรลุข้อตกลง ซึ่งสหรัฐก็เปิดกว้างต่อทุกกรณี แต่ขณะเดียวกัน สหรัฐก็พร้อมที่จะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติม หากการหารือไม่คืบหน้า


ซึ่งที่ผ่านมา สหรัฐและจีนยังคงขัดแย้งกันในหลายประเด็น ทั้งเรื่องที่สหรัฐกล่าวหาจีนว่าขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและบีบบังคับบริษัทอเมริกันต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีในกรณีการเข้าร่วมลงทุนในจีน


ทั้งนี้ กำหนดการรับประทานอาหารค่ำระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจสำคัญช่วงท้าย ซึ่งไม่รับุว่าจะมีเจ้าหน้าที่สหรัฐเข้าร่วมในการรับประทานอาหารเย็นนี้หรือไม่ ก่อนที่ผู้นำสหรัฐจะเสร็จสิ้นการประชุมและเดินทางกลับสหรัฐ


3. ทำเนียบขาวได้เปิดเผยแผนของประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่มเติมนอกเหนือจากจีน ซึ่งจะประชุมทวิภาคีกับผู้นำจากหลายประเทศ เช่น ผู้นำญี่ปุ่น รัสเซีย เยอรมนี และอาร์เจนตินา นอกรอบการประชุมสุดยอด G-20 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 30 พฤศจืกายน วันที่ 1 ธันวาคมนี้ ที่กรุงบัวโนสไอเรส ของอาร์เจนตินา


ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในการแถลงต่อสื่อมวลชนว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้าร่วมรับประทานอาหารเย็นกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หลังจากจากที่ถูกถามว่าการประชุมครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสองชาติจะออกมาในรูปแบบใด นับตั้งแต่ที่สหรัฐและจีนต่างตอบโต้กันเรื่องการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน เป็นมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์ และ 113,000 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ


4. ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความไม่พอใจ GM หรือ General Motor ที่ประกาศปิดโรงงานในอเมริกาเหนือ iรวมทั้งปลดพนักงาน 14,800 คน โดยอาจจะตัดเงินที่รัฐบาลเคยให้เงินอุดหนุนในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินของสหรัฐเมื่อปี 2008


โดยที่ทำเนียบขาวได้จับตามอง GM หลังจากที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับการปิดโรงงานผลิตรถยนต์ 5 แห่งในเมืองดีทรอยท์ รัฐโอไฮโอ รัฐแมรีแลนด์ รัฐมิชิแกน และที่เมืองออนทาริโอของแคนาดา พร้อมปลดคนงานอีก 14,800 คนจนถึงปี 2020 โดยให้เป็นการลาออกด้วยความสมัครใจ


5. ขณะที่ผ่านมานั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐให้มีการลงทุนและสร้างงานในสหรัฐ ตามนโยบาย Make America Great Again โดยเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐ


ดังนั้น ความเคลื่อนไหวของ GM ดังกล่าวจึงสร้างความรู้สึกไม่พอใจเนื่องจากเป็นการตัดสินใจที่สวนทางกับนโยบายรัฐโดยผู้นำสหรัฐกำลังทบทวนถึงสิ่งที่เคยให้การอุดหนุนกับ GM ให้ผ้่นพันวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินสหรัฐในช่วงปี 2008 ซึ่งอาจจะเป็นการตัดเงินอุดหนุนที่เคยให้การสนุบสนุนมาก่อนหน้านี้


โดยที่ GM มีการนำเงินมาใข้เพื่อการซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวนสูงเกือบ 14,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อที่จะทำให้มีเงินทุนที่แข็งแกร่งอย่างเพียงพอในการกลับมาฟื้นจากผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินในครั้งที่ผ่านมา

logoline